สถานที่ที่ยิ่งใหญ่ของโลก ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยไว้ในจินตนาการได้ NIKKOR Z DX 18-140mm f/3.5-6.3 VR เป็นเลนส์ที่สามารถสำรวจทุกสิ่งทุกอย่างไปได้พร้อมกับคุณ ถ่ายได้ตั้งแต่ภาพทิวทัศน์มุมกว้างที่มีรายละเอียด ฉากถนนที่สวยงาม ไปจนถึงภาพระยะใกล้เทเลโฟโต้ที่มีฉากหลังเบลองดงาม แม้แต่ภาพสไตล์มาโคร ที่ซึ่งคุณสามารถทำทุกอย่างที่กล่าวมานี้ได้ด้วยเลนส์รูปแบบ DX น้ำหนักเบาเพียงเลนส์เดียวที่ให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพโดดเด่นได้ในทุกช็อต  

NIKKOR Z DX 18-140mm f/3.5-6.3 VR สามารถครอบคลุมได้ทุกช็อต ซูมได้อย่างราบรื่นจากมุมกว้าง 18 มม. (เทียบเท่ากับ 27 มม. เมื่อใช้กับกล้องขนาด APS-C/รูปแบบ DX) ผ่านจุดสมดุลของช่วงทางยาวโฟกัสต่าง ๆ ได้แก่ 35 มม., 50 มม., 85 มม., 105 มม. ไปจนถึงกำลังซูมระดับเทเลโฟโต้ 140 มม. (เทียบเท่ากับ 210 มม. เมื่อใช้กับกล้องขนาด APS-C/รูปแบบ DX)

พกพาไปได้ทุกที่

แม้จะมีช่วงซูมที่กว้าง แต่ NIKKOR Z DX 18-140mm f/3.5-6.3 VR นั้นเป็นเลนส์อเนกประสงค์ที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด เหมาะสำหรับการเดินทาง งานอีเวนต์ หรือการถ่ายภาพขณะเดินทาง เป็นผลิตภัณฑ์คู่กายที่เหมาะสำหรับกล้อง Z รูปแบบ DX เช่น Z 50 และ Z fc

VR ที่ช่วยให้เสถียร

ระบบช่วยลดภาพสั่นไหว VR ในตัวทำให้คุณใช้มือถ่ายวิดีโอและภาพได้เสถียรและคมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณถ่ายภาพนิ่งได้ด้วยความไวชัตเตอร์ที่ช้าลงโดยไม่ทำให้ภาพเคลื่อนไหวเบลอ

ถ่ายได้ใกล้ถึง 20 เซนติเมตร* จากวัตถุของคุณ และเติมเต็มเฟรมด้วยรายละเอียดแบบมาโครที่อัตราการขยายขนาดใหญ่ 0.33 เท่า สิ่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพบนโต๊ะและการถ่ายภาพอาหาร ที่ซึ่งคุณจะได้ภาพที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน 

*ระยะห่างจากพื้นผิวหน้าเลนส์ไปจนถึงตำแหน่งโฟกัส ที่ตำแหน่งมุมกว้าง

การใช้งานที่ราบรื่น
วงแหวนปรับระยะซูม

ลวดลายขนาดใหญ่พร้อมการซูมที่ราบรื่นและรวดเร็ว

คม พื้นผิวซาติน

สีดําซาตินคุณภาพสูงที่เข้ากันกับกล้องซีรีส์ Z ทุกรุ่น

ให้ความรู้สึกแม่นยำ
ลายพิมพ์แบบคลาสสิก

ลวดลายพื้นผิวแบบกากบาทช่วยให้จำแนกวงแหวนควบคุมออกจากวงแหวนปรับระยะซูมได้อย่างชัดเจน โดยยังคงรูปลักษณ์และความรู้สึกที่แม่นยำ

มรดกสืบทอด ตรา NIKKOR

ตราที่ว่าถูกวางตำแหน่งลงตรงด้านบนของเลนส์อย่างพิถีพิถันเพื่อตอกย้ำถึงแบรนด์และคุณภาพที่เป็นตํานาน

สเต็ปปิ้งมอเตอร์

เลนส์ NIKKOR Z ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์เพื่อให้ออโตโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ราบรื่น และเงียบเชียบด้วยอาการสั่นที่ลดลง ระบบการทำงานที่เงียบเชียบนี้เองทำให้เลนส์นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง

กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)

กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด

เลนส์ IF

เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์

ระบบลดภาพสั่นไหว

เทคโนโลยีในเลนส์ของ Nikon ที่ปรับปรุงความเสถียรของภาพด้วยการชดเชยการสั่นไหวของกล้องโดยอัตโนมัติ เลนส์ที่มี VR จะมีตัวย่อ VR อยู่ตรงกระบอกเลนส์

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรต

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรตของ Nikon เป็นคําศัพท์ของ Nikon ที่เป็นการเคลือบชิ้นส่วนระบบออปติกต่าง ๆ ในเลนส์ NIKKOR แบบหลายชั้น

เลนส์แอสเฟอริคัล

เลนส์โค้งที่มีพื้นผิวไม่เป็นทรงกลม ถูกใช้เพื่อลดความคลาดเคลื่อนและทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น เลนส์แอสเฟอริคัลช่วยลดโคม่าและความคลาดเคลื่อนของเลนส์แบบอื่น ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด แม้จะเปิดรูรับแสงกว้างที่สุดก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ไขความผิดเพี้ยนในเลนส์มุมกว้าง พร้อมทำให้ตัวเลนส์นั้นเบาและกะทัดรัดยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยการลดจำนวนชิ้นส่วนมาตรฐาน (ทรงกลม) ที่จำเป็นลงได้ ชิ้นเลนส์แอสเฟอริคัลแก้ไขความผิดเพี้ยนเหล่านี้ได้ด้วยการเปลี่ยนค่าดัชนีการหักเหได้อย่างต่อเนื่องจากตรงจุดศูนย์กลางของเลนส์

*ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019 เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA: ค่านี้จะได้เมื่อต่อเข้ากับกล้องรูปแบบ DX โดยกำหนดค่าฟังก์ชัน VR ของกล้องไว้ที่ “NORMAL” และเมื่อการซูมตั้งค่าไว้ที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด 

เลนส์มีกลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า กล้องรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์นี้ได้: Z 5, Z 50, Z 7II, Z 7, Z 6II, Z 6

ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น