เข้าถึงทุกความเคลื่อนไหวด้วย AF-S NIKKOR 120-300MM F/2.8E FL ED SR VR ใหม่
การออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นมืออาชีพ ขยายขอบเขตศักยภาพในการถ่ายภาพและครอบคลุมสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมทั้งให้คุณภาพที่สวยสะดุดตาด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังของเลนส์ AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR
ประเทศไทย – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความยินดีที่จะประกาศการเปิดตัว AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเลนส์สำหรับการซูมภาพเทเลโฟโต้ที่ทำงานฉับไวและมีน้ำหนักเบาเพื่อมอบศักยภาพใหม่ๆ ในการถ่ายภาพที่มาพร้อมระบบการทำงานและคุณภาพอันเหนือระดับ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเลนส์ซูม แต่ก็ให้ความละเอียดสูงเทียบเท่าเลนส์ไพรม์ 300 มม. ที่มอบสมรรถนะของระบบออพติคที่เหนือชั้น
เก็บภาพแอคชั่นที่สะท้อนอารมณ์ ของเหล่านักกีฬาในการแข่งขันได้ทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นระยะโคลสอัพท่วงท่าของนักยิมนาสติก ไปจนถึงระยะมุมกว้างของนักกีฬาวอลเลย์บอลที่วิ่งอยู่บนสนาม ด้วยทางยาวโฟกัสที่ครอบคลุมระหว่าง 120 ถึง 300 มม.[1] เลนส์จึงสามารถทำการซูมเพื่อเก็บภาพสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย ด้วยเลนส์เพียงตัวเดียวที่พร้อมรองรับทั้งช็อตโคลสอัพไปจนถึงช็อตมุมกว้าง เพียงแค่สลับมุมมองภาพได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์แต่อย่างใด
“AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR คือที่สุดของเลนส์สำหรับการถ่ายภาพกีฬาและกิจกรรมต่างๆ เพราะท่ามกลางความเคลื่อนไหวนั้น คุณย่อมไม่อยากพลาดช็อตเด็ด ค่ารูรับแสงสูงสุดของเลนส์ที่ f/2.8 ตลอดช่วงการซูมช่วยให้สามารถใช้ค่าความไวชัตเตอร์สูงขึ้นได้ คุณจึงสามารถเก็บภาพที่คมชัดได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องกล้องสั่นแม้จะอยู่ในสภาพแสงน้อย อีกทั้งยังสามารถสร้างโบเก้ที่งดงามได้ตลอดช่วงการซูมด้วยค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ให้ความสว่างสูง ช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสัตว์ป่าและนก อาจพบว่าคุณสมบัติดังกล่าวนี้มีประโยชน์อย่างมากระหว่างการถ่ายภาพสัตว์ต่างๆ ในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ” มร. คันทาโร่ ฟูจิวาระ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์เชิงหักเหช่วงคลื่นสั้น (Short-wavelength Refractive – SR) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ อันเป็นชิ้นเลนส์ต้นแบบของนิคอนที่ให้การกระจายแสงสูงและจำเพาะพิเศษ เพื่อสร้างการถ่ายทอดภาพที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการสีรั่ว (colour bleeding) และคงเหลือความคลาดเคลื่อนสี (chromatic aberration ) เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ เลนส์ยังประกอบด้วยฟังก์ชั่นระบบลดภาพสั่นไหว (VR) อันทรงพลังและสมรรถนะของระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่เหนือชั้นเทียบเท่าเลนส์ไพรม์เทเลโฟโต้เพื่อรองรับการถ่ายภาพกีฬาและสัตว์ป่าได้อย่างมั่นใจ เมื่อเลือกใช้งานโหมด VR [SPORT] เลนส์จะให้การติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวรวดเร็วและไร้ทิศทางแน่นอน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพเหตุการณ์กีฬาโดยเฉพาะ
สัมผัสความคล่องตัวและระบบการทำงานที่เหนือระดับด้วยเลนส์ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันรุ่นนี้ ซึ่งสร้างมาเพื่อมืออาชีพ ระบบการควบคุมที่เข้าใจได้ง่าย เช่น การหมุนวงแหวนปรับระยะซูมที่นุ่มนวล ปุ่มตั้งค่าการจดจำ ปุ่มฟังก์ชั่นโฟกัส และการสั่งการตามปกติแบบเลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่ๆ ของนิคอน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการเลนส์ได้อย่างง่ายดาย จึงพร้อมจะถ่ายภาพขณะสำคัญได้ในชั่วพริบตา
คุณสมบัติหลักของเลนส์ AF-S NIKKOR 120-300MM F/2.8E FL ED SR VR
เข้าถึงความเคลื่อนไหวได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ด้วยน้ำหนักเพียง 3250 กรัม อีกทั้งเลนส์ยังใช้โค้ทผิวฟลูออรีนที่ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี จึงสามารถทำความสะอาดออกได้ง่ายแม้ว่าคราบจะเกาะติดอยู่บนผิวเลนส์ เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ไร้กังวลแม้จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหนือความคาดหมายเป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นนี้มีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันหยดน้ำ และป้องกันคราบสกปรก
เข้าถึงความเคลื่อนไหวได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ด้วยน้ำหนักเพียง 3250 กรัม อีกทั้งเลนส์ยังใช้โค้ทผิวฟลูออรีนที่ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี จึงสามารถทำความสะอาดออกได้ง่ายแม้ว่าคราบจะเกาะติดอยู่บนผิวเลนส์ เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ไร้กังวลแม้จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหนือความคาดหมายเป็นเวลาต่อเนื่องกันนานๆ เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นนี้มีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง ป้องกันหยดน้ำ และป้องกันคราบสกปรก
AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR พร้อมมอบ:
อัตราการขยายระดับสูงตลอดช่วงการซูมด้วยระยะโฟกัสใกล้สุด 2 เมตรและอัตราการขยายสูงสุดที่ 0.16 เท่า- ภาพถ่ายที่คมชัดสดใสโดยลดอาการของแสงโกสต์และแสงแฟลร์ลง ด้วยการใช้โค้ทผิว ARNEO และโค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลซึ่งให้คุณลักษณะสะท้อนแสงต่ำเป็นพิเศษตลอดช่วงแสงที่สายตามองเห็น
- การชดเชยความคลาดเคลื่อนสีที่เด่นชัด ถ่ายทอดภาพได้อย่างคมชัดและตรึงตาด้วยเทคโนโลยีเลนส์ SR อันเป็นต้นแบบของนิคอน การชดเชยความคลาดเคลื่อนสีที่แม่นยำสูงนี้ได้มาจากการควบคุมแสงช่วงคลื่นสั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะชดเชยได้ยาก จึงทำให้เลนส์มีประสิทธิภาพในการเลือกเก็บเฉพาะแสงที่มีความยาวคลื่นบางช่วง และด้วยเหตุนี้จึงลดอาการสีรั่วไม่ให้เกิดขึ้นได้ องค์ประกอบเลนส์ SR ยังช่วยให้ AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR มีการออกแบบระบบออพติคที่ยืดหยุ่นได้ เราจึงสามารถผลิตเลนส์รุ่นนี้ให้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาลงได้โดยไม่มีการลดทอนคุณภาพของภาพลงแต่อย่างใด
- ช็อตภาพที่นุ่มนวลและต่อเนื่องด้วยฟังก์ชั่น VR ซึ่งช่วยให้ภาพที่นิ่งและคมชัดด้วยเอฟเฟ็กต์เทียบเท่ากับค่าความไวชัตเตอร์ 4.0 สต็อป[2]
สมรรถนะ AF ที่ดีเยี่ยมแม้จะต้องเจอกับการเคลื่อนไหวที่ไม่อาจคาดเดาได้ เพราะมีระบบการติดตามวัตถุที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นซึ่งได้จากการตรวจจับออโตโฟกัส จึงได้ผลลัพธ์และสมรรถนะที่ดียิ่งกว่าเก่าในการติดตามวัตถุเคลื่อนไหวด้วยการควบคุมกลไกเซอร์โวออโตโฟกัสและกลไกออโตโฟกัสแบบผกผันความเร็วสูง
[1] เมื่อต่อเข้ากับกล้องรูปแบบ DX มุมมองภาพจะเทียบเท่ากับเลนส์ 180-450 มม. ในรูปแบบกล้องฟิล์มขนาด 35 มม.
[2] เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA; ในโหมด NORMAL ค่านี้จะได้เมื่อต่อเข้ากับกล้องดิจิตอล SLR ที่มีเซ็นเซอร์ภาพขนาดเท่าฟิล์ม 35 มม. วัดที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด
การวางจำหน่าย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR รุ่นใหม่และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดเยี่ยมชม http://www.nikon.co.th
