กล้องและเลนส์รุ่นใหม่จาก Nikon ได้รับรางวัลจาก EISA (the Expert Imaging and Sound Association)

ประเทศไทย – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) ประกาศด้วยความยินดีว่ากล้องและเลนส์รุ่นใหม่ของนิคอน 4 รุ่น ได้รับรางวัล EISA Awards 2020-2021 ซึ่ง Nikon D780 ได้รับรางวัล The Full-Frame Camera Award, Z 50 ได้รับรางวัล The Best Buy Camera Award, AF-S NIKKOR 120-300mm f/2.8E FL ED SR VR ได้รับรางวัล The Professional Telephoto Zoom Lens Award และ NIKKOR Z 85mm f/1.8 S ได้รับรางวัล The Portrait Lens Award

Nikon D780 เป็นกล้อง DSLR Full-Frame ที่มีเซ็นเซอร์ CMOS 24.5 ล้านพิกเซล เมื่อรวมกับโปรเซสเซอร์ภาพ EXPEED 6 ที่รวดเร็ว และมีความไวแสงสูงถึง ISO 51200 ซึ่งเปิดโอกาสให้การถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น หน้าจอสัมผัส LCD แบบปรับเอียงได้ช่วยให้ผู้ใช้ได้ภาพที่ต้องการแม้จะถ่ายจากมุมสูงหรือมุมต่ำ การประมวลผลภาพที่เหนือกว่าต่อจาก Nikon D750 ซึ่งมีความสามารถของวิดีโอที่ดีขึ้น (สูงสุด 4K UHD / 30p พร้อม N-Log) Slow motion และ Time-lapse นอกจากนี้ระบบ AF แบบไฮบริดที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วเมื่อถ่ายภาพและถ่ายทำโดยใช้หน้าจอ LCD

Nikon D780 เป็นกล้อง DSLR Full-Frame (Nikon FX-format) ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกของ Nikon ที่ใช้ AF ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัสซึ่งให้ประสิทธิภาพ AF ที่ล้ำหน้าด้วยการถ่ายภาพแบบ Live View ระบบ AF แบบไฮบริดของ D780 ใช้จุดโฟกัส 2732 จุดซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้าง ๆ ของเฟรม 90% ของพื้นที่ภาพในแนวนอนและแนวตั้ง การนำระบบประมวลผลภาพ EXPEED 6 มาใช้ ทำให้การแสดงผลที่คมชัดและชัดเจน แต่ยังทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ CMOS รูปแบบ FX ของ Nikon เพื่อให้ได้ค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 100-512003 และรองรับ Eye-detection AF4 ซึ่งจะตรวจจับดวงตาโดยอัตโนมัติ และการบันทึกภาพยนตร์ 4K UHD ที่มีช่วงไดนามิกสูงโดยใช้มาตรฐาน HLG (Hybrid Log-Gamma)5.

1 ภาพจะถูกบันทึกไปยังอุปกรณ์ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำที่เสียบอยู่ในกล้องได้

2 ด้วยการบันทึกภาพนิ่งโดยใช้พื้นที่ภาพ FX (36 × 24) และ AF จุดเดียว จุดโฟกัส 231 จุดพร้อมการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

3 ความไวแสงสามารถขยายได้จนถึงเทียบเท่า ISO 50 และสูงถึงเทียบเท่า ISO 204800

4 ด้วยการถ่ายภาพไลฟ์วิวการถ่ายภาพนิ่งในโหมด AF แบบปรับพื้นที่อัตโนมัติ

5 ภาพจะถูกบันทึกไปยังอุปกรณ์ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำที่เสียบอยู่ในกล้องได้

ด้วยราคาที่เหมาะสมและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม จึงทำให้ Nikon Z 50 เป็นกล้อง EISA Best Buy ในปี 2020-2021 กล้องมิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัดที่มีเซ็นเซอร์ APS-C (DX) นี้ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับการเดินทางด้วยตัวกล้องที่สร้างมาอย่างดีและทนทานต่อสภาพอากาศ ให้คุณภาพของภาพที่ดีพร้อมช่วงไดนามิกที่ดีซึ่งช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดได้ทั้งในส่วนไฮไลท์และส่วนที่เป็นเงา Z 50 ใช้โปรเซสเซอร์ EXPEED 6 แบบเดียวกับรุ่นฟูลเฟรมของ Nikon ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30p หรือสูงสุด 120p ใน Full HD โฟกัสอัตโนมัตินั้นรวดเร็วและแม่นยำพร้อมด้วยฟังก์ชั่น Eye-Detection AF ที่มีประโยชน์มากจากการอัปเดตเฟิร์มแวร์

Nikon Z 50 เป็นกล้องมิเรอร์เลส รูปแบบ APS-C (Nikon DX-format) โดยได้รับการพัฒนาทั้งการออกแบบและความสามารถในการใช้งาน ความน่าเชื่อถือ และความเป็นไปได้ในอนาคตในรูปแบบระบบมิเรอร์เลสโดยมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และทนทานซึ่งมีความสามารถในการเรนเดอร์ที่เหนือกว่าและพลังในการแสดงออกที่หลากหลาย Z 50 เป็นกล้องรูปแบบ DX ตัวแรกของ Nikon ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ CMOS ที่รวมพิกเซล AF ตรวจจับระยะห่างของระนาบโฟกัส เซ็นเซอร์นี้มีจำนวนพิกเซลที่ใช้งานจริง 20.9 ล้านพิกเซลและทำงานร่วมกับระบบประมวลผลภาพ EXPEED 6 เพื่อมอบประสิทธิภาพความไวแสงที่โดดเด่นพร้อมรองรับช่วงความไวแสงมาตรฐาน ISO 100–51200[6] และยังคงความคมชัดและความชัดเจน แม้จะมีความไวสูง นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชั่นวิดีโอที่น่าสนใจมากมายเช่นการบันทึกภาพยนตร์ Full-frame 4K UHD ที่ใช้รูปแบบ DX และ Creative Picture Controls

[6] ความไวแสงสามารถขยายได้จนถึงเทียบเท่า ISO 50 และสูงถึงเทียบเท่า ISO 204800

เลนส์เทเลโฟโต้อันทรงพลังนี้เหมาะสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพในสภาวะที่ท้าทาย รูรับแสงสูงสุดที่รวดเร็วและคงที่ตลอดช่วงทางยาวโฟกัสเต็มรูปแบบมีข้อดีในหลาย ๆ สถานการณ์เช่นการถ่ายภาพบุคคลกีฬาในร่มและกลางแจ้งและการถ่ายภาพธรรมชาติ แม้จะใช้ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 แต่ NIKKOR ยังมอบความละเอียดที่ยอดเยี่ยมให้กับกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรมที่มีความคลาดเคลื่อนสีน้อยที่สุดด้วยการใช้กระจก Short-wavelength Refractive (SR) ใหม่ของ Nikon สามารถจัดการได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มีประสิทธิภาพและการป้องกันสภาพอากาศที่ครอบคลุม รองรับการใช้งานกับเทเลคอนเวอร์เตอร์ 1.4x และ 2x ของ Nikon ทำให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพมากขึ้น

AF-S NIKKOR 120-300 มม. f/2.8E FL ED SR VR เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ที่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพออพติคอลที่เหนือกว่าและเทียบเท่ากับเลนส์ไพรม์เทเลโฟโต้ เลนส์ครอบคลุมช่วงซูมกว้าง 120 มม. ถึง 300 มม. พร้อมรูรับแสงสูงสุดที่รวดเร็วคงที่ที่ f/2.8 สิ่งนี้ไม่เพียง แต่ทำให้ได้ผลเมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อยเช่นในร่มเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถแสดงภาพที่ควบคุมความเปรียบต่างระหว่างระนาบโฟกัสที่คมชัดและโบเก้ที่สวยงาม ออปติกของเลนส์ที่สร้างจาก ED หนึ่งชิ้นฟลูออไรต์สองชิ้นและชิ้นเลนส์ SR ที่พัฒนาขึ้นใหม่หนึ่งชิ้นช่วยลดความคลาดเคลื่อนของสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เลนส์ยังรองรับประสิทธิภาพการติดตาม AF ที่เพิ่มขึ้นกับวัตถุที่ความเร็วในการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

นอกเหนือจากระบบเมาท์ Z แบบมิเรอร์เลสของ Nikon แล้วนี่คือเลนส์ถ่ายภาพบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่มีทางยาวโฟกัส 85 มม. แบบคลาสสิกซึ่งโดดเด่นท่ามกลางการแข่งขันที่ยากลำบาก ในฐานะที่เป็นเลนส์ 85 มม. ที่ดีที่สุดของ Nikon ในปัจจุบันจึงมีประสิทธิภาพที่ f/1.8 ได้อย่างน่าชื่นชมโดยมีความนุ่มนวลของขอบและการจัดการรับแสงในปริมาณที่เหมาะสมที่ช่างภาพบุคคลต้องการ ในขณะที่ประสิทธิภาพด้านออปติคอลจะสมบูรณ์แบบในทางเทคนิคเมื่อปิดรูรับแสงลงสองสามสต็อป นอกจากนี้เลนส์นี้ไม่มีความผิดเพี้ยนอีกทั้งให้ความเร็วโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและสร้างขึ้นตามมาตรฐานระดับสูงรวมถึงการทนต่อสภาพอากาศสำหรับการใช้งานในทุกสภาวะ

NIKKOR Z 85 มม. f/1.8 S เป็นเลนส์ไพรม์เทเลโฟโต้ระดับกลางที่รวดเร็วสำหรับกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม ที่รองรับความยาวโฟกัส 85 มม. และทำให้เกิดโบเก้ที่สวยงาม การใช้ระบบโฟกัสหลายจุดช่วยลดความคลาดเคลื่อนได้อย่างมากในทุกระยะการถ่ายภาพรวมถึงการถ่ายภาพระยะใกล้และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการสร้างภาพที่เหนือกว่า โฟกัสที่คมชัดและชัดเจนทำได้จากค่ารูรับแสงกว้างสุด และคอนทราสต์พร้อมโบเก้ที่สวยงามน่าทึ่งจะเน้นที่ตัวแบบหลัก การผสมผสานระหว่างโบเก้ที่สวยงามและโฟกัสที่คมชัดทำให้เกิดภาพสามมิติที่เป็นธรรมชาติซึ่งไม่เพียงแต่ใช้ได้ผลกับการถ่ายภาพบุคคลเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการเน้นวัตถุในประเภทภาพถ่ายอื่น ๆ อีกมากมายรวมถึงสแนปช็อตและภาพนิ่ง

EISA (The Expert Imaging and Sound Association) เป็นสมาคมที่เกิดจากการรวมตัวกันของ 60 นิตยสารชั้นนำด้านการถ่ายภาพ วิดีโอ ระบบเสียง โฮมเธียเตอร์ และโมบายอิเล็กทรอนิกส์ จาก 29 ประเทศในยุโรป มากกว่า 35 ปีที่ EISA ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในกลุ่มอุปกรณ์ด้านการถ่ายภาพที่เปิดตัวในยุโรปในช่วงปีที่ผ่านมา

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EISA ได้ที่ https://www.eisa.eu/