สุดยอดการซูมมุมกว้างพิเศษ

มุมมองผ่านเลนส์ NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยาย มุมมองที่กว้างเป็นพิเศษท้าทายการรับรู้สเกลการวัดของเรา ความชัดเจนที่ส่งถึงคุณ รายละเอียดในระดับที่คุณจะเชื่อเมื่อคุณได้เห็น รองรับการขยายรูรับแสงได้อย่างต่อเนื่อง 14-24 มม. f/2.8 ด้วยเลนส์ที่มีขนาดสั้นที่สุด เบาที่สุด และใช้งานได้หลากหลายที่สุด เหมาะสำหรับภูมิทัศน์ ทิวทัศน์ในเมือง ท้องฟ้ายามค่ำคืน สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และภาพบุคคลกับสภาพแวดล้อม เลนส์นี้ตอบได้ทุกโจทย์ที่คุณต้องการ

เลนส์ซูมกว้างพิเศษ f/2.8 สั้นที่สุดและเบาที่สุดของโลก*

NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S เล็กกว่าและเบากว่าเลนส์อื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน เข้ากันได้ดีกับทุกส่วนของคุณทั้งหลัง แขน และขาตั้งกล้อง ประหยัดพิ้นที่ในกระเป๋าของคุณ คุณจึงสามารถพกพาไปได้ทุกที่ ให้ความสมดุลอย่างยอดเยี่ยมบนกล้อง Z สำหรับการจัดองค์ประกอบภาพในทุกช่วงเวลา

* ในบรรดาเลนส์ซูมแบบถอดเปลี่ยนได้สำหรับกล้องดิจิตอลแบบฟูลเฟรม (รูปแบบ FX ของ Nikon) ที่มีช่วงการโฟกัสเริ่มต้นที่ 14 มม. หรือต่ำกว่า และค่ารูรับแสงสูงสุด f/2.8 ตลอดช่วงการซูม ซึ่งวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2020 ข้อความจากการวิจัยของ Nikon

ครอบคลุมทุกมุมมอง

ด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ ใส่ใจในทุกมิลลิเมตร NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ครอบคลุมมุมมองถึง 115° ที่การตั้งค่าที่กว้างที่สุดที่ 14 มม. และด้วยความคมชัดและความชัดเจนของกรอบขนาดใหญ่พิเศษ ตั้งแต่ตรงกลางไปจนถึงขอบที่ไกลสุด

มีแสงมากขึ้น ตัวเลือกมากขึ้น

เก็บแสงได้มากขึ้นในทุกตําแหน่งการด้วยรูรับแสงกว้างคงที่ f/2.8 ที่รวดเร็วและระบบป้องกันและลดภาพสั่นไหวของกล้อง Z ของคุณ ในที่ที่มีแสงน้อย ช่วยส่องสว่างให้แก่วัตถุด้วยการเปิดรับแสงนานขึ้นหรือทำให้คมชัดขึ้นด้วยชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น นี่คืออิสระขององค์ประกอบภาพ

ล้ำเลิศ ด้วยการออกแบบ

เมาท์ Z ของ Nikon เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการออกแบบเลนส์ NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งจากขนาดกะทัดรัดและกำลังการแยกรายละเอียดขั้นสูง ไปจนถึงช่องเสียบฟิลเตอร์ในตัวและการควบคุมความผิดเพี้ยน เลนส์รุ่นนี้จึงเป็นเลนส์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง

ทำงานได้ดีกับฟิลเตอร์

ต่างจากการซูมแบบมุมกว้างพิเศษทั่วไป NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ใช้ฟิลเตอร์สกรูในตัวมาตรฐานขนาด 112 มม. พร้อมช่องครอบเลนส์ HB-97 และเพื่อการสร้างสรรค์ที่มากขึ้น จึงมีช่องใส่แผ่นฟิลเตอร์ที่ส่วนประกอบด้านหลัง ซึ่งช่วยให้คุณเลื่อนแผ่นฟิลเตอร์และเจลที่เล็มออกได้

ลองพูดว่า "แอ็กชัน"

NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ยอดเยี่ยมสำหรับงานวิดีโอ ใช้มุมมองที่กว้างเป็นพิเศษให้กับภาพระยะไกล ภาพภายในอาคาร และดึงดูดผู้ชมของคุณให้เข้ามาอยู่ในฉาก กลไกของสเต็ปปิ้งมอเตอร์ออโตโฟกัสและกลไกรูรับแสงทำงานอย่างเงียบสนิท แม้แต่ไมค์ฮอทชูที่ติดตั้งบนกล้องก็ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากการโฟกัสได้ และขจัด focus breathing ออกไปทั้งหมด คุณจึงเปลี่ยนโฟกัสได้อย่างราบรื่นโดยไม่ส่งผลต่อมุมมองของภาพที่ถ่ายอย่างเห็นได้ชัด

เริ่มเดินทาง ไม่ว่าเส้นทางจะพาคุณยังแห่งใด

NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ออกแบบมาสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม ซีลปิดสนิทเพื่อกันฝุ่นและความชื้น* โดยเฉพาะรอบ ๆ เมาท์เลนส์และชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทั้งหมด องค์ประกอบด้านหน้ามีชั้นเคลือบฟลูออรีนนอนสติ๊กของ Nikon ซึ่งกันฝุ่นละอองและความชื้น และเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว แผงข้อมูลเลนส์

ยืนยันความยาวโฟกัส ระยะโฟกัส ระยะชัดลึกของภาพและรูรับแสงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณถ่ายภาพโดยใช้ขาตั้งกล้องและไม่สามารถอยู่ด้านหลังกล้องได้

ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม วงแหวนควบคุม

ราบเรียบ แม่นยำ และไร้ที่ติ ปรับรูรับแสง ISO และการชดเชยแสงได้เพียงปลายนิ้ว

พร้อมตลอดเวลา ปุ่มลัด

เปิดใช้งานการติดตามวัตถุ การแสดงภาพ การล็อก AF และอื่น ๆ อีกมากมายจากปุ่ม L-Fn ปรับแต่งอุปกรณ์ตามความต้องการภาพถ่ายของคุณ

เทคโนโลยี

โค้ทผิว ARNEO

การเคลือบป้องกันแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon และใช้ร่วมกับชั้นเคลือบคริสตัลแบบนาโนเพื่อลดภาพซ้อนและแสงแฟลร์จากแสงที่ส่องเข้ามาในแนวดิ่งของเลนส์ คุณสมบัติข้อนี้ทำให้สามารถเก็บภาพที่คมกริบชัดเจนได้ แม้ในสถานการณ์ที่แหล่งที่มาของแสงปรากฏอยู่ภายในเฟรม

โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล

ซึ่งคือการโค้ทผิวตัดแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon ช่วยลดการสะท้อนแสงของชิ้นเลนส์ภายในได้อย่างชัดเจนในหลากหลายความยาวคลื่นแสง โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลแก้ปัญหาเอ็ฟเฟ็กต์ภาพซ้อนที่เกิดจากแสงสีแดง พร้อมลดภาพซ้อนและแสงจ้าที่เกิดจากแสงที่ส่องเข้ามาในเลนส์ตามแนวทแยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สเต็ปปิ้งมอเตอร์

เลนส์ NIKKOR Z ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์เพื่อให้ออโตโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ราบรื่น และเงียบเชียบด้วยอาการสั่นที่ลดลง ระบบการทำงานที่เงียบเชียบนี้เองทำให้เลนส์นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ

เลนส์แอสเฟอริคัล

เลนส์โค้งที่มีพื้นผิวไม่เป็นทรงกลม ถูกใช้เพื่อลดความคลาดเคลื่อนและทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น เลนส์แอสเฟอริคัลช่วยลดโคม่าและความคลาดเคลื่อนของเลนส์แบบอื่น ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด แม้จะเปิดรูรับแสงกว้างที่สุดก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ไขความผิดเพี้ยนในเลนส์มุมกว้าง พร้อมทำให้ตัวเลนส์นั้นเบาและกะทัดรัดยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยการลดจำนวนชิ้นส่วนมาตรฐาน (ทรงกลม) ที่จำเป็นลงได้ ชิ้นเลนส์แอสเฟอริคัลแก้ไขความผิดเพี้ยนเหล่านี้ได้ด้วยการเปลี่ยนค่าดัชนีการหักเหได้อย่างต่อเนื่องจากตรงจุดศูนย์กลางของเลนส์

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง

เลนส์ IF

เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์

กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)

กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรต

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรตของ Nikon เป็นคําศัพท์ของ Nikon ที่เป็นการเคลือบชิ้นส่วนระบบออปติกต่าง ๆ ในเลนส์ NIKKOR แบบหลายชั้น

เลนส์มีกลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า กล้องรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์นี้ได้: Z 5, Z 50, Z 7II, Z 7, Z 6II, Z 6

ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น