เอื้อมให้ไกล ไปให้ถึง

เลนส์เทเลโฟโต้ให้มากกว่าแค่พลังซูม เลนส์เทเลโฟโต้นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพบุคคล เพราะทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติโดยไม่เกิดความผิดเพี้ยน ทำให้วัตถุของคุณโดดเด่นเหนือพื้นหลังที่นุ่มนวลและเบลอ ทำให้คุณเติมเต็มเฟรมด้วยองค์ประกอบภาพที่น่าสนใจ และแน่นอน เลนส์เหล่านี้ยังช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น เช่น สัตว์ป่า กีฬา คอนเสิร์ต กิจกรรมและอื่น ๆ อีกมากมาย NIKKOR Z DX 50-250mm f/4.5-6.3 VR ให้ความสามารถในด้านเทเลโฟโต้ที่มีความกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาสำหรับกล้องซีรีส์ Z รวดเร็ว แม่นยำ และเกือบจะเงียบสนิท มันเชี่ยวชาญทั้งทางด้านวิดีโอและภาพนิ่งไม่แพ้กัน เพื่อเป็นเลนส์ตัวที่สองคู่กับ NIKKOR Z DX 16-50mm f/3.5-6.3 VR ซึ่งช่วยให้คุณสามารถครอบคลุมสถานการณ์การถ่ายใด ๆ ก็ได้

การช่วยลดภาพสั่นไหวอันทรงพลัง

จากระยะเทเลโฟโต้นั้น การขยับกล้องเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ภาพถ่ายเบลอได้ วิดีโอนั้นยิ่งหนักกว่าอีก เราคุ้นเคยกับวิดีโอที่ให้ภาพสั่นไหวจากสมาร์ทโฟน NIKKOR Z DX 50-250mm f/4.5-6.3 VR มีระบบการช่วยลดภาพสั่นไหว (VR) ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดกว่า NIKKOR รุ่นใด สูงสุดถึง 5 สต็อป*! วิดีโอของคุณจะมั่นคงเหมือนหิน และภาพถ่ายแบบเทเลโฟโต้ของคุณจะคมชัดและชัดเจน

เลนส์เทเลโฟโต้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการถ่ายในระยะใกล้ด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์และระยะชัดลึกที่ตื้นสำหรับวิดีโอของคุณ เช่นเดียวกับเลนส์ภาพยนตร์ระดับไฮเอนด์ NIKKOR Z DX 50-250mm f/4.5-6.3 VR ได้รับการออกแบบมาเพื่อลด focus breathing ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยกับสมาร์ทโฟนที่ทำให้วิดีโอออกมาเหมือนมือสมัครเล่น และแหวนควบคุมและแหวนโฟกัสนั้นทำงานด้วยความเงียบสนิท ดังนั้นคุณจึงไม่ได้ยินเสียงใด ๆ จากกล้องในระหว่างการบันทึก

ออโตโฟกัสที่แม่นยำ

NIKKOR Z DX 50-250mm f/4.5-6.3 VR ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์ที่รวดเร็วและเงียบสนิทสำหรับการโฟกัสอัตโนมัติ และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ Eye AF ของซีรีส์ Z เพื่อรักษาโฟกัสได้ตรงตําแหน่งที่คุณต้องการ

คอนทราสต์สูง

ชิ้นส่วนเลนส์กระจกที่มีการกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ (ED) ช่วยลดความบกพร่องของสีและแสงจ้าเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและชัดเจนขึ้นด้วยคอนทราสต์ที่โดดเด่น

การควบคุมที่ปรับแต่งได้

กําหนดฟังก์ชันโปรดของคุณให้กับวงแหวนควบคุม เช่น การควบคุมรูรับแสง (เหมาะสำหรับการเปลี่ยนม่านรูรับแสงในระหว่างการบันทึกวิดีโอ), การปรับ ISO, การชดเชยแสง หรือแมนวลโฟกัส

เทคโนโลยี

สเต็ปปิ้งมอเตอร์

เลนส์ NIKKOR Z ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์เพื่อให้ออโตโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ราบรื่น และเงียบเชียบด้วยอาการสั่นที่ลดลง ระบบการทำงานที่เงียบเชียบนี้เองทำให้เลนส์นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ

เลนส์ IF

เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรต

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรตของ Nikon เป็นคําศัพท์ของ Nikon ที่เป็นการเคลือบชิ้นส่วนระบบออปติกต่าง ๆ ในเลนส์ NIKKOR แบบหลายชั้น

กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)

กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด

ระบบลดภาพสั่นไหว

เทคโนโลยีในเลนส์ของ Nikon ที่ปรับปรุงความเสถียรของภาพด้วยการชดเชยการสั่นไหวของกล้องโดยอัตโนมัติ เลนส์ที่มี VR จะมีตัวย่อ VR อยู่ตรงกระบอกเลนส์

*ข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2019 เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA: ค่านี้จะได้เมื่อต่อเข้ากับกล้องรูปแบบ DX โดยกำหนดค่าฟังก์ชัน VR ของกล้องไว้ที่ “NORMAL” และเมื่อการซูมตั้งค่าไว้ที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด

เลนส์มีกลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า กล้องรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์นี้ได้: Z 5, Z 50, Z 7II, Z 7, Z 6II, Z 6

ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น