เว็บไซต์ของนิคอน เอเชีย และเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงพันธมิตรบุคคลที่สามจากภายนอกใช้งานคุกกี้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของเราและมอบประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น เราใช้งานคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และคุกกี้ทางการตลาดเพื่อเรียนรู้จากข้อมูลผู้ใช้ ปรับแต่งโฆษณา และวัดประสิทธิภาพ คุกกี้เหล่านี้จะติดตามข้อมูลต่างๆ เช่น วิธีที่ผู้ใช้สำรวจและใช้งานเว็บไซต์ของเรา การวิเคราะห์ของผู้ใช้ และข้อมูลการซื้อของผู้ใช้ เมื่อคลิกที่ "ยอมรับคุกกี้" หรือเรียกดูต่อโดยไม่เปลี่ยนการตั้งค่า แสดงว่าคุณยอมรับและยินยอมให้เว็บไซต์นี้ใช้งานคุกกี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู นโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
เทเลโฟโต้แบบมือถือ
นิยามใหม่
ความเหนือชั้นในการเข้าถึงด้วยความคล่องตัวอันโดดเด่น
เบาที่สุดในผลิตภัณฑ์คลาสเดียวกัน1 ด้วยน้ำหนักเพียง 1,390 กรัม ด้วยองค์ประกอบของ Phase Fresnel ของเลนส์ สูงสุด 5.5 สต็อป VR2 ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของ S-Line ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัส 600 มม. เงียบอย่างเหลือเชื่อ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S ที่สร้างสรรค์เพื่อความก้าวหน้า เป็นเลนส์คู่ใจที่สมบูรณ์แบบในการจับภาพขณะเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย
สูงสุด 5.5 สต็อป
ระบบลดภาพสั่นไหว
600 มม.
ทางยาวโฟกัสของซูเปอร์เทเลโฟโต้
~1,390 กรัม
น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเลนส์ในคลาสเดียวกัน
S-Line
ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม
ทุกการเข้าถึง น้ำหนักเพียงครึ่งเดียว
เบากว่า NIKKOR Z 600 มม f/4 TC VR S 57% โดยประมาณ
สร้างสรรค์เพื่อการพกพา
บอกลาความเหนื่อยล้าในการถ่ายภาพด้วยด้วยเลนส์น้ำหนักเบาพิเศษ NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S และสัมผัสประสบการณ์ความคล่องตัวระดับโลกและอิสระระหว่างการจับภาพของนกและเครื่องบินจากกระยะไกล ด้วยน้ำหนักที่เบาที่สุด1 ในคลาสเดียวกัน เพียง 1390 กรัมและการออกแบบที่กะทัดรัดเพียง 278 มม. ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของเลนส์จึงอยู่ที่ตำแหน่งใกล้ตัวกล้องยิ่งกว่าเดิม การควบคุมที่ดียิ่งขึ้นระหว่างการแพนกล้อง NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S เมื่อเทียบกับ AF-S NIKKOR 500 มม. F/5.6E PF ED VR มีทางยาวโฟกัสยาวกว่า 100 มม. และเมื่อเทียบกับ AF-S NIKKOR 500 มม F/5.6E PF ED VR พร้อม FTZ มีน้ำหนักเบากว่า 115 กรัม
สัมผัสความสมดุลที่เหนือกว่าด้วยศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของเลนส์ที่ตำแหน่งใกล้ตัวกล้องมากที่สุด ให้การควบคุมดียิ่งขึ้นแม้ขณะโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วระหว่างการแพนกล้อง
ตัวแปร Phase Fresnel
ง่ายต่อการพกพามากที่สุด ด้วยน้ำหนักเบาและการออกแบบที่กะทัดรัดจากชิ้นเลนส์ Phase Fresnel ซึ่งไม่เพียงแต่การลดขนาดของชิ้นเลนส์ให้สั้นลงและน้ำหนักเบายิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งมอบขีดความสามารถที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับความคลาดเคลื่อนสี
ดูรายละเอียดสุดอัศจรรย์นี้
ดูความงดงามและรายละเอียดสุดอัศจรรย์แม้แต่ขนของนกด้วยการรังสรรค์ภาพรายละเอียดสูงและประสิทธิภาพด้านออปติคัลอันเหนือชั้น ด้วยชิ้นเลนส์ PF กระจก ED สองชิ้นและชิ้นเลนส์ SR หนึ่งชิ้น เลนส์ NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S ใหม่จึงสามารถลดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวแกน สร้างสรรค์รายละเอียดระดับเหนือชั้นกว่า เมื่อเทียบกับ AF-S NIKKOR 500 มม. F/5.6E PF ED VR เมื่อใช้ร่วมกับชั้นเคลือบผิวนาโนคริสตัล ตำแหน่งของชิ้นเลนส์ PF จึงให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการลดแสงโกสต์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดอย่างต่อเนื่องและรักษารายละเอียดสูงสุดในการรังสรรค์ภาพ แม้ขณะถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวที่ระยะ 1,200 มม. ด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์
จับภาพโดยไม่สั่นไหว
แม้ที่ระดับซูเปอร์เทเลโฟโต้สูงสุด 5.5 สต็อป2 VR คุณก็ยังคงสามารถรังสรรค์ภาพที่ดีที่สุดได้ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของ VR และรับมือกับการสั่นของกล้องได้ ด้วยตัวเลือกสองโหมด NORMAL และ SPORT คุณจะสามารถปรับแต่งการรังสรรค์ภาพได้ตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจง
โหมด NORMAL ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับผลลัพธ์สูงสุดด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของ VR ซึ่งเทียบเท่ากับเพิ่มขึ้น 5.5 สต็อป2 ในความไวชัตเตอร์
โหมด SPORT เป็นโหมดเหมาะสมที่สุดในการจับภาพวัตถุซึ่งไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว แม้ในระหว่างการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโหมดนี้ให้ภาพของช่องมองภาพที่มีความเสถียร ความเบาของตัวเลนส์ช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับโหมด SPORT ในการถ่ายภาพขณะแพนกล้องและติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว นอกจากนี้คุณยังสามารถได้รับกำลังเพิ่มขึ้นจาก Synchro VR ที่สูงสุด 6.0 สต็อป3
เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ธรรมชาติรักความสงบเงียบ ด้วยเหตุนี้สเต็ปปิ้งมอเตอร์ (STM) จึงได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความเงียบและความไวในการตอบสนองอันยอดเยี่ยม ดังนั้นเลนส์นี้จึงสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการถ่ายภาพนกป่าหรือสัตว์ป่าอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการลดเสียงในการทำงานระหว่างการโฟกัสและถ่ายภาพยนตร์ ด้วยออโตโฟกัสที่แม่นยำและรวดเร็ว เลนส์นี้จึงเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและการถ่ายวิดีโอ สัตว์ป่าที่มีชีวิตหรือการแข่งรถด้วยเช่นกัน เวลาที่คุณมีโอกาสเพียงเสี้ยววินาทีในการถ่ายภาพ
"ความยอดเยี่ยมของความเร็วออโตโฟกัสช่วยให้ฉันถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวรวดเร็วและไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าได้ขณะทำงาน ความเสถียรที่ระดับสูงมีประโยชน์อย่างยิ่งเช่นกัน ช่วยให้ฉันถ่ายภาพขณะถือกล้องได้แม้แต่ที่ 1/200th ความกะทัดรัดและน้ำหนักเบาที่อย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเลนส์ 600 มม. ทำให้เลนส์นี้ง่ายต่อการพกพาไปทุกที่ และทางยาวโฟกัสที่ไกลกว่าก็ช่วยให้ฉันสามารถรักษาความระมัดระวังไว้ได้และได้ภาพถ่ายที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงและน่าประทับใจอย่างยิ่ง
@Julie Cogis - ช่างภาพ / ฝรั่งเศส
ความง่ายในการทำงาน
สิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับเลนส์ NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S นี้คือการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติการป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ4 ตำแหน่งที่เหมาะสมของระบบการควบคุมการทำงาน หรือชั้นเคลือบผิวฟลูออรีนเพื่อปกป้องความเปรอะเปื้อน ทุกองค์ประกอบเหล่านี้ได้รับการคำนึงถึงเพื่อความง่ายในการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในการป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ ชิ้นส่วนกระบอกเลนส์ที่ถอดได้หลายชิ้นจึงมีผนึกป้องกัน ขณะเดียวกันปะเก็นยางบนเมาท์เลนส์ก็ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งใดทั้งสิ้นหลุดรอดเข้าสู่เลนส์ โค้ทผิวฟลูออรีนนี้สามารถขับไล่ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การขจัดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่เกาะบนผิวเลนส์ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณสามารถรักษาสมาธิการโฟกัสบนวัตถุที่คุณต้องการจับภาพได้ตลอดเวลา แม้แต่ในสถานการณ์ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด
ปุ่ม L-Fn เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ตำแหน่งของระบบควบคุมการทำงานที่สอดคล้องกับเลนส์ไพรม์ซูเปอร์เทเลโฟโต้อื่น พร้อมด้วยยางกันลื่นบนบริเวณมือจับทั่วไปก็ช่วยให้การถือกล้องมีความเสถียรและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยปุ่ม L-Fn2 สี่ปุ่มและปุ่ม L-Fn หนึ่งปุ่ม ผู้ใช้จึงสามารถกำหนดการใช้งานที่เหมาะสมตามความต้องการของตนมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและการปรับแต่งโดยไม่ต้องอาศัยภาพเพื่อยืนยัน ฟังก์ชันการเรียกคืนค่าโฟกัสที่ตั้งไว้5 เป็นการบันทึกตำแหน่งการโฟกัสที่เลนส์ใช้งานบ่อยครั้งเพื่อการเรียกคืนข้อมูลที่รวดเร็ว
"เลนส์นี้ให้ความประทับใจอย่างยิ่ง เมื่อใช้งานกับตัวกล้อง Nikon Z 8 ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับเลนส์นี้มากและค่อนข้างชอบตัวกล้องด้วยเช่นกัน การถ่ายภาพสามารถทำได้ง่ายดายและรวดเร็วราวกับจรวด และทั้งสองสิ่งนี้ทำให้การถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องสนุก ฉันมีความสุขทุกครั้งในการถ่ายภาพด้วยสองสิ่งนี้!"
@Savannah Rose - ช่างภาพสัตว์ป่า / สหรัฐอเมริกา
ออกแบบเพื่อวิดีโอ
ด้วยลายคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S จึงให้นำคุณก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่ของโหมดวิดีโอ
การทำงานที่เงียบเชียบ
การทำงานที่เงียบเชียบ
เสียงจากการขับเคลื่อนเลนส์และการทำงานอื่นๆ ลดลงจนเหลือเพียงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกบันทึก แม้ว่าจะบันทึกในสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่มีความเงียบก็ตาม การปรับใช้วงแหวนควบคุมเพื่อ "ลดการคลิก" ช่วยป้องกันเสียงการทำงานที่ไม่จำเป็นระหว่างการบันทึกวิดีโอ
ความสำเร็จในการถ่ายวิดีโอที่เป็นธรรมชาติ
ฟังก์ชันการชดเชยอาการ focus-breathing เพื่อโฟกัสที่มีประสิทธิภาพ
ฟังก์ชันการชดเชยอาการ focus-breathing เพื่อโฟกัสที่มีประสิทธิภาพ6 ช่วยลดการเคลื่อนองศาภาพขณะปรับจุดโฟกัสในการบันทึกภาพธรรมชาติและความนุ่มนวลของวิดีโอ
รักษาความคงที่ของค่าแสงด้วยความราบรื่นของการเปลี่ยนรูรับแสง
รักษาความคงที่ของค่าแสงด้วยความราบรื่นของการเปลี่ยนรูรับแสง
ส่งมอบการปรับเปลี่ยนความสว่างที่เป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างวิดีโออย่างราบรื่นด้วยการควบคุมรูรับแสงที่นุ่มนวลและมีความเสถียร
เทคโนโลยี
โค้ทผิวฟลูออรีน
ช่างภาพต้องการอุปกรณ์ที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ โค้ทผิวฟลูออรีนของ Nikon ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นละออง หยดน้ำ คราบมัน หรือความสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ขจัดคราบออกได้ง่ายเมื่อติดอยู่ที่พื้นผิวของเลนส์ โค้ทผิวฟลูออรีนของ Nikon ทนทานต่อการเช็ดพื้นผิวเลนส์บ่อย ๆ ได้และเอ็ฟเฟ็กต์ป้องกันแสงสะท้อนของเลนส์ยังมีส่วนช่วยในการถ่ายภาพที่ชัดเจนอีกด้วย
กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)
กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด
สเต็ปปิ้งมอเตอร์
เลนส์ NIKKOR Z ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์เพื่อให้ออโตโฟกัสที่เงียบสนิทได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำและราบรื่น โดยลดการสั่นลง ระบบการทำงานที่เงียบเชียบนี้เองทำให้ตัวเลนส์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ
เลนส์ PF
เลนส์ PF (Phase Fresnel) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย Nikon สามารถชดเชยความคลาดเคลื่อนสีได้เป็นอย่างดีโดยอาศัยปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Photo Diffraction หรือการเลี้ยวเบนของแสง* โดยเลนส์ชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชดเชยความคลาดเคลื่อนสีเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์กระจกแบบปกติ และเมื่อเทียบกับเลนส์กล้องทั่วไปที่ใช้ระบบออปติกที่อาศัยปรากฏการณ์การหักเหแสงแล้ว เลนส์นี้ยังมีขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบากว่ามาก เนื่องจากมีจำนวนชิ้นเลนส์น้อยกว่า
ชิ้นเลนส์เชิงหักเหช่วงความยาวคลื่นสั้น
SR เป็นเลนส์กระจกที่มีการกระจายแสงสูงและพิเศษ ที่หักเหแสงด้วยความยาวคลื่นที่สั้นกว่าแสงสีน้ำเงิน ด้วยการควบคุมแสงที่มีความยาวคลื่นสั้น เลนส์จึงสามารถชดเชยความคลาดเคลื่อนสีได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้สีในภาพของคุณแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การออกแบบเลนส์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งทำให้ได้การออกแบบเลนส์ที่กะทัดรัดและเบาขึ้น
โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล
ซึ่งคือการโค้ทผิวป้องกันแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon ช่วยลดการสะท้อนแสงของชิ้นเลนส์ภายในได้อย่างชัดเจนในหลากหลายความยาวคลื่นแสง โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลแก้ปัญหาเอ็ฟเฟ็กต์ภาพซ้อนที่เกิดจากแสงสีแดง พร้อมลดภาพซ้อนและแสงจ้าที่เกิดจากแสงที่ส่องเข้ามาในเลนส์ตามแนวทแยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลนส์ IF
เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์
โค้ทผิว ARNEO
การเคลือบป้องกันแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon และใช้ร่วมกับชั้นเคลือบคริสตัลแบบนาโนเพื่อลดภาพซ้อนและแสงแฟลร์จากแสงที่ส่องเข้ามาในแนวดิ่งของเลนส์ คุณสมบัติข้อนี้ทำให้สามารถเก็บภาพที่คมกริบชัดเจนได้ แม้ในสถานการณ์ที่แหล่งกำเนิดแสงปรากฏอยู่ภายในเฟรม
Meso Amorphous Coat
Meso Amorphous Coat ช่วยยับยั้งแสงโกสต์และแสงแฟลร์ที่เกิดจากแสงตกกระทบจากทุกทิศทางซึ่งรวมไปถึงแสงที่ผ่านเข้ามาในเลนส์ทั้งในแนวทแยงและแนวตั้งได้จนถึงระดับสูงสุด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันแสงสะท้อนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NIKKOR ในระบบการเคลือบนี้ อนุภาคที่มีรูปร่างไม่แน่นอนจะเชื่อมต่อกันและซ้อนทับกันแบบสุ่มเพื่อสร้างรูพรุนจำนวนมากที่เรียกว่ามีโซพอร์ (Mesopore) รูพรุนจำนวนมากที่อยู่ในชั้นเคลือบจะก่อให้เกิดโครงสร้างมีโซพอร์ที่ละเอียดมากซึ่งให้ค่าดัชนีการหักเหที่ต่ำสุด ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ชั้นเคลือบรองพื้นที่ให้ความแม่นยำยิ่งกว่าเดิมยังช่วยเสริมการป้องกันแสงสะท้อนได้มากยิ่งขึ้นด้วย
1ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ f/6.3 และเลนส์ที่เร็วกว่า รวมทั้งเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 600 ม. สำหรับเลนส์ Full-frame/FX-format แบบเปลี่ยนเลนส์ได้ของกล้องมิเรอร์เลส ซึ่งออกวางจำหน่ายนับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2023 ข้อความจากการวิจัยของ Nikon
2ที่วัดตามมาตรฐาน CIPA ที่กำหนดฟังก์ชัน VR เป็นโหมด NORMAL
3ตามมาตรฐาน CIPA ในโหมด NORMAL เมื่อติดตั้งบนกล้องมิเรอร์เลสกับเลนส์ Full-frame/FX-format แบบเปลี่ยนเลนส์ได้
4ไม่รับประกันการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำภายใต้ทุกสภาพเงื่อนไข
5เป็นฟังก์ชันที่พร้อมใช้งานกับกล้องเมาท์ของ Z ทั้งหมดที่เวลาการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เมื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้ จะต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์ของกล้องเป็นเวอร์ชันล่าสุด
6ในบางครั้งอาจเห็นอาการ focus breathing ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างเลนส์และวัตถุอันเนื่องจากลักษณะเฉพาะของเลนส์
* ปรากฏการณ์การเลี้ยวเบน: แสงมีลักษณะเป็นรูปคลื่น ซึ่งเมื่อกระทบกับสิ่งกีดขวางก็จะพยายามเลี้ยวอ้อมไปทางด้านหลัง และเราเรียกลักษณะเฉพาะนี้ว่า Diffraction หรือการเลี้ยวเบน โดยการเลี้ยวเบนนั้นทำให้เกิดการกระจัดกระจายของสีในกระบวนการหักเหแสงแบบย้อนกลับ