รายละเอียดทั้งหมด ความคมชัดทั้งหมด

สร้างวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ของคุณด้วยเลนส์ไพรม์ 50 มม. ที่คมและเร็วที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างสรรค์ขึ้น พลังการเรนเดอร์ที่ไม่ธรรมดาทั่วทั้งเฟรม รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.2 ออโตโฟกัสที่สุดยอด เป็นอิสระจากความผิดเพี้ยนและการควบคุมแสงแฟลร์ โครงสร้างรองรับสภาพอากาศ ทั้งหมดได้รับการสนับสนุนโดย Z เมาท์ ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการของ Nikon เป็นระบบที่โดดเด่นด้วยเลนส์ความเร็วสูง ฝันให้ไกล และ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S จะทำมันให้เป็นจริง

บันทึกภาพดวงตา

สายตาที่มองมาที่คุณในทุกภาพถ่ายและวิดีโอจะมีความชัดเจน ความลึก และโฟกัสที่ไร้ที่ติ นี่คือเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพและคุณภาพของภาพสูงที่สุด มันจะเปลี่ยนวิธีการถ่ายภาพของคุณได้อย่างไร

แสงของคุณ

ภาพบางภาพที่ยากที่สุด และคุ้มค่ามากที่สุดคือการถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาวะย้อนแสง NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ยอดเยี่ยมในสถานการณ์เหล่านี้ การเคลือบป้องกันแสงสะท้อนด้วยโค้ทนาโนคริสตัล (N) และ ARNEO (A) ช่วยขจัดแสงแฟลร์ ภาพซ้อนและแสงโคม่าได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยการกดแสงที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญที่มาจากทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

ความลุ่มลึกที่น่าทึ่ง

แยกวัตถุออกมาด้วยความคมชัดที่ค่อย ๆ เลือนหายจนกลายเป็นภาพเบลอที่พร่ามัวราวกับภาพฝัน ระยะชัดลึกที่ตื้นสุด ๆ ของ f/1.2 ถูกเสริมโดยแผ่นไดอะแฟรมม่านรูรับแสง 9 กลีบทรงกลม ทำให้เกิดเอ็ฟเฟ็กต์โบเก้ธรรมชาติ

นิยามใหม่ของ ออโตโฟกัส

แทนที่จะย้ายองค์ประกอบเลนส์กลุ่มใหญ่ไปมา ระบบมัลติโฟกัสของ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S จะย้ายกลุ่มขนาดเล็กสองกลุ่มออกไปครึ่งทาง แทนที่จะใช้มอเตอร์อัลตร้าโซนิค มอเตอร์เดียวที่ทรงพลังแต่มีเสียงรบกวนและทำให้แบตเตอรี่หมดไว NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์ STM ขนาดเล็กสองตัวที่ประหยัดพลังงานเพื่อการทำงานออโตโฟกัสที่รวดเร็วกว่า เงียบกว่า แม่นยำกว่า ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับเลนส์ f/1.2*

*ในบรรดาเลนส์แบบเปลี่ยนได้สำหรับกล้องดิจิตอลฟูลเฟรม (Nikon รูปแบบ FX) แบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีค่ารูรับแสงสูงสุด f/1.2 ที่มีจำหน่าย ณ วันที่ 16 กันยายน 2020 ข้อความจากการวิจัยของ Nikon

ไร้เสียง

นอกเหนือจากการประหยัดพลังงานแล้ว สเต็ปปิ้งมอเตอร์ของ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ก็ทำงานเงียบจนแทบจะไม่ได้ยินเสียง เมื่อความเงียบเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การถ่ายวิดีโอนิ่ง ๆ หรือบันทึกวิดีโอ คุณสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องส่งเสียง

แม่นยำ

เมื่อถ่ายภาพที่ f/1.2 ระนาบโฟกัสจะบางจนแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ก็รับมือได้ ระบบออโตโฟกัสจะล็อกจับและให้การปรับอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วเพื่อให้วัตถุของคุณอยู่ในโฟกัสที่คมชัด

รวดเร็ว

ด้วยองค์ประกอบเลนส์สองกลุ่มที่เคลื่อนไหวในการซิงโครไนซ์ที่แม่นยำ ทำให้ NIKKOR Z 50mm f/1.2 S สามารถโฟกัสได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งค่ารูรับแสงที่กว้างสำหรับระนาบโฟกัสที่บางมาก

วิดีโอกลายเป็นภาพยนตร์

NIKKOR Z 50mm f/1.2 S เป็นอุปกรณ์หลักของผู้สร้างสรรค์วิดีโอ คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมทำให้ได้ฟุตเทจ 4K อันน่าทึ่ง มุมมองภาพที่เป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับการสัมภาษณ์ ภาพภายในอาคาร และมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง สร้างการเปลี่ยนแปลงม่านรูรับแสงที่สวยงามผ่านระยะชัดลึกที่กว้างของขอบเขตด้วยวงแหวนควบคุมแบบไม่ต้องคลิก เมื่อแสงเปลี่ยนไป ปรับ ISO หรือค่าแสงได้อย่างราบรื่นเพื่อรักษาระดับแสงในการถ่ายภาพให้เท่ากัน เปลี่ยนโฟกัสโดยไม่ส่งผลกระทบต่อมุมมองภาพหรือ focus breathing ที่สังเกตเห็นได้ และเนื่องจาก NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ทำงานเกือบจะเงียบสนิท คุณจึงสามารถใช้ออโตโฟกัสที่โดดเด่นของกล้อง Z ของคุณได้ในระหว่างการบันทึกวิดีโอ

ไม่จำเป็นต้องเช็คพยากรณ์อากาศ

NIKKOR Z 50mm f/1.2 S ได้รับการซีลอย่างดีเพื่อกันฝุ่นและความชื้น โดยเฉพาะรอบส่วนที่เคลื่อนที่ได้ของกระบอกเลนส์ น้ำเพียงเล็กน้อยจะไม่ทำให้กล้องหรือเลนส์ Z เสียหาย ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปข้างนอกและสนุกกับวันฝนตกให้มากที่สุดดีกว่า

เลนส์ไม่รับประกันการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำในทุกสถานการณ์และในทุกสภาพการใช้งาน

ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว แผงข้อมูลเลนส์

ยืนยันระยะโฟกัส ระยะชัดลึกของภาพและรูรับแสงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณถ่ายภาพโดยใช้ขาตั้งกล้องหรือกิมบอล และไม่สามารถอยู่ด้านหลังกล้องได้

ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม วงแหวนควบคุม

ราบเรียบ แม่นยำ และไร้ที่ติ ปรับรูรับแสง ISO และการชดเชยแสงได้เพียงปลายนิ้ว

พร้อมตลอดเวลา ปุ่มลัด

เปิดใช้งานการติดตามวัตถุ การแสดงภาพ การล็อก AF และอื่น ๆ อีกมากมายจากปุ่ม L-Fn ปรับแต่งอุปกรณ์ของคุณให้เหมาะกับการถ่ายทำของคุณ

ความประทับใจแรก

Kyoko Munakata

เทคโนโลยี

โค้ทผิว ARNEO

การเคลือบป้องกันแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon และใช้ร่วมกับชั้นเคลือบคริสตัลแบบนาโนเพื่อลดภาพซ้อนและแสงแฟลร์จากแสงที่ส่องเข้ามาในแนวดิ่งของเลนส์ คุณสมบัติข้อนี้ทำให้สามารถเก็บภาพที่คมกริบชัดเจนได้ แม้ในสถานการณ์ที่แหล่งที่มาของแสงปรากฏอยู่ภายในเฟรม

โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล

ซึ่งคือการโค้ทผิวตัดแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon ช่วยลดการสะท้อนแสงของชิ้นเลนส์ภายในได้อย่างชัดเจนในหลากหลายความยาวคลื่นแสง โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลแก้ปัญหาเอ็ฟเฟ็กต์ภาพซ้อนที่เกิดจากแสงสีแดง พร้อมลดภาพซ้อนและแสงจ้าที่เกิดจากแสงที่ส่องเข้ามาในเลนส์ตามแนวทแยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สเต็ปปิ้งมอเตอร์

เลนส์ NIKKOR Z ใช้สเต็ปปิ้งมอเตอร์เพื่อให้ออโตโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ราบรื่น และเงียบเชียบด้วยอาการสั่นที่ลดลง ระบบการทำงานที่เงียบเชียบนี้เองทำให้เลนส์นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ

เลนส์แอสเฟอริคัล

เลนส์โค้งที่มีพื้นผิวไม่เป็นทรงกลม ถูกใช้เพื่อลดความคลาดเคลื่อนและทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น เลนส์แอสเฟอริคัลช่วยลดโคม่าและความคลาดเคลื่อนของเลนส์แบบอื่น ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด แม้จะเปิดรูรับแสงกว้างที่สุดก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ไขความผิดเพี้ยนในเลนส์มุมกว้าง พร้อมทำให้ตัวเลนส์นั้นเบาและกะทัดรัดยิ่งกว่าเดิมได้ด้วยการลดจำนวนชิ้นส่วนมาตรฐาน (ทรงกลม) ที่จำเป็นลงได้ ชิ้นเลนส์แอสเฟอริคัลแก้ไขความผิดเพี้ยนเหล่านี้ได้ด้วยการเปลี่ยนค่าดัชนีการหักเหได้อย่างต่อเนื่องจากตรงจุดศูนย์กลางของเลนส์

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง

เลนส์ IF

เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์

กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)

กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรต

การโค้ทผิวแบบซูเปอร์อินทีเกรตของ Nikon เป็นคําศัพท์ของ Nikon ที่เป็นการเคลือบชิ้นส่วนระบบออปติกต่าง ๆ ในเลนส์ NIKKOR แบบหลายชั้น

เลนส์มีกลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า กล้องรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์นี้ได้: Z 5, Z 50, Z 7II, Z 7, Z 6II, Z 6

ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น