เว็บไซต์ของนิคอน เอเชีย และเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงพันธมิตรบุคคลที่สามจากภายนอกใช้งานคุกกี้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของเราและมอบประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น เราใช้งานคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และคุกกี้ทางการตลาดเพื่อเรียนรู้จากข้อมูลผู้ใช้ ปรับแต่งโฆษณา และวัดประสิทธิภาพ คุกกี้เหล่านี้จะติดตามข้อมูลต่างๆ เช่น วิธีที่ผู้ใช้สำรวจและใช้งานเว็บไซต์ของเรา การวิเคราะห์ของผู้ใช้ และข้อมูลการซื้อของผู้ใช้ เมื่อคลิกที่ "ยอมรับคุกกี้" หรือเรียกดูต่อโดยไม่เปลี่ยนการตั้งค่า แสดงว่าคุณยอมรับและยินยอมให้เว็บไซต์นี้ใช้งานคุกกี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู นโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
ประสิทธิภาพที่อเนกประสงค์
ความอเนกประสงค์อันน่าทึ่ง
ความสามารถในการปรับตัว ยืดหยุ่น เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมรับมือแม้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่ง เติบโตในทุกสถานการณ์ที่เข้ามาหา Z 6 อาจเป็นกล้องที่ปรับเปลี่ยนได้มากที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมา เป็นสุดยอดแห่งความเร็ว ความละเอียด และประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อย ผสมผสานข้อดีทั้งหมดนี้กับข้อได้เปรียบต่างๆ ของการออกแบบกล้องมิเรอร์เลส เมาท์เลนส์แบบฟูลเฟรมโฉมใหม่อันปฏิวัติวงการ และการทำงานร่วมกันอันไร้รอยต่อด้วยระบบ Nikon DSLR ซึ่งรวมไปถึงเลนส์ F เมาท์ NIKKOR ที่คุณหลงรัก นี่คือความอเนกประสงค์แบบมิเรอร์เลสที่ Nikon เท่านั้นที่สามารถสร้างได้
24.5
ล้านพิกเซล
FX
รูปแบบ
12 FPS
การถ่ายภาพต่อเนื่อง
100 - 51,200
ISO (ขยายได้ถึง 204,800)
4K UHD
3840x2160 ที่ 30/25/24p
สัมผัสแห่ง Nikon
รู้สึกสบายและคุ้นเคยเหมือนได้ใช้กล้องตัวเดิม
ความคุ้นเคยที่อยู่ในมือของคุณ
ทั้งเลนส์ NIKKOR Z กับ NIKKOR แบบ F เมาท์และเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ นั้นมีการออกแบบที่จับกระชับมือและน้ำหนักที่สมดุลซึ่งให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม ปุ่มและแป้นหมุนต่าง ๆ นั้นถูกวางตำแหน่งไว้ให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งฟีเจอร์อย่างปุ่มเลือกคำสั่งย่อยและปุ่ม AF-On นั้นก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับของ D850 แบบฉบับ Nikon
ประสิทธิภาพอันยิ่งใหญ่
ฟุตพรินท์ที่น้อยนิด
หนึ่งในข้อดีหลัก ๆ ของระยะหน้าแปลนที่สั้นเพียง 16 มม. ของ Z 6 ก็คือทำให้กล้องนั้นมีขนาดเล็กและเบากว่าเดิมได้ Z 6 นั้นเบากว่า D780 แต่ยังสามารถให้ความรู้สึกและสมดุลที่ยอดเยี่ยมได้ แม้ว่าจะใช้เลนส์เทเลโฟโต้ NIKKOR แบบ F เมาท์ก็ตาม ทำให้คุณสามารถพกกล้องไปไหนมาไหนได้สะดวกพอ ๆ กับการถ่ายภาพ
ความทนทานระดับเรือธงของ Nikon
โครงสร้างของกล้องนั้นผลิตขึ้นมาจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแกร่งสุด ๆ ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ใน D850 และ D5 เพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งที่ทนทานสุด ๆ และอัตราส่วนความแข็งแกร่งต่อน้ำหนักที่น่าทึ่ง ทั้งนี้ยังใช้วัสดุกลไกเบรกกับแผ่นชัตเตอร์แบบเดียวกันกับของ D850 ซึ่งได้รับการทดสอบถึง 200,000 ครั้งด้วยการใช้งานในกล้องจริง ทำให้ Z 6 นั้นพร้อมสำหรับการใช้งานในภาคสนาม
เลนส์ NIKKOR Z รุ่นใหม่
กระจก NIKKOR แห่งยุคถัดไป
เลนส์ NIKKOR Z ที่เสริมสมรรถนะด้วย Z เมาท์ที่ใหญ่กว่าเดิมและระยะโฟกัสหน้าแปลน 16 มม. ที่สั้นกว่าเดิมนั้นสามารถรวบรวมแสงได้มากขึ้นพร้อมฉีกกฎทั่วไปของคำว่า “จุดสมดุล” บอกลาเรื่องการลดสต็อปของรูรับแสงลงเพื่อให้ได้ความคมชัดสูงสุดไปได้เลย เพราะ NIKKOR Z นั้นให้ความคมชัดจากมุมต่อมุมได้ดีที่สุดแม้จะเปิดรูรับแสงกว้างสุดก็ตาม
เลนส์ NIKKOR แบบ F เมาท์อันเป็นตำนาน
ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมจากเลนส์ที่คุณหลงรัก
เมื่อใช้ร่วมกับเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ เสริมแล้ว เลนส์ NIKKOR แบบ F เมาท์ กว่า 90 รุ่นจะยังคงไว้ซึ่งความคมชัดได้ทั้งหมดทำให้หมดห่วงเรื่องกำลังและการทำงานของเลนส์ไปได้เลย รวมถึงข้อดีต่าง ๆ ของ Z 6 อย่าง VR ในตัว, การถ่ายที่เงียบเชียบ, ระบบโฟกัส PDAF,¹ วิดีโอ 4K และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถใช้ได้กับเลนส์ NIKKOR แบบ F เมาท์ประมาณ 360 รุ่น ซึ่งเป็นการรองรับที่จะพบได้กับผลิตภัณฑ์ของ Nikon เท่านั้น
ระบบออโตโฟกัสไฮบริด 273 จุด
โฟกัสสิ่งที่คู่ควร
PDAF 493 จุดในเซ็นเซอร์
จุดออโตโฟกัสในเซ็นเซอร์ 273² จุดครอบคลุม 90% ของเฟรม (โดยประมาณ) ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งสามารถตรวจจับวัตถุที่เข้ามาในเฟรมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งติดตามวัตถุดังกล่าวได้ทั่วทั้งเฟรมแม้ว่าจะอยู่ตรงขอบก็ตาม
ออโตโฟกัสไฮบริดโฉมใหม่
Z 6 ที่ใช้อัลกอริธึมออโตโฟกัสที่เหมาะสมกับเซ็นเซอร์รูปแบบ FX ของกล้องนั้นจะสามารถสลับไปมาระหว่างออโตโฟกัสตรวจวัดระยะห่างของระนาบโฟกัสและออโตโฟกัสตรวจวัดคอนทราสต์ได้เพื่อทำให้การโฟกัสดูดีขึ้น พิกเซลของการตรวจวัดระยะห่างแบบป้องกันแสงนั้นจะได้รับการจัดเรียงในเซ็นเซอร์อย่างพิถีพิถันเพื่อสงวนแสงไว้ อันจะทำให้ได้ออโตโฟกัสที่แม่นยำแม้จะเป็นในที่ที่มีแสงสลัวก็ตาม
การติดตามวัตถุโฉมใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายระดับสายตาด้วย EVF หรือในไลฟ์วิวด้วย LCD ก็ตาม ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติจะติดตามวัตถุของคุณได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น เมื่อทำการถ่ายภาพบุคคล ระบบจะให้ความสนใจไปที่ลำตัวช่วงบนด้วย เพื่อรักษาตำแหน่งโฟกัสไว้ได้เมื่อวัตถุของคุณไม่ได้มองกล้องหรือขยับออกจากมุมมองไปชั่วขณะ
ใช้ประสิทธิภาพการติดตามวัตถุล่าสุดได้ด้วยเฟิร์มแวร์ 3.0
ออโตโฟกัสตรวจจับดวงตา
ออโตโฟกัสตรวจจับดวงตาเป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่ติดตามและล็อกโฟกัสไปที่ดวงตาของวัตถุได้ไม่ใช่แค่ในโหมด AF-S (ออโตโฟกัสครั้งเดียว) แต่ยังใช้ได้ในโหมด AF-C (ออโตโฟกัสต่อเนื่อง) ด้วย ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อวัตถุในภาพของคุณเปลี่ยนท่าโพสอยู่เสมอ นอกจากนี้ ออโตโฟกัสตรวจจับดวงตายังสามารถตรวจจับดวงตาของคนหลาย ๆ คนในเฟรมได้อย่างชาญฉลาด ทำให้คุณมีอิสระที่จะเลือกโฟกัสไปที่บุคคลและดวงตาคู่ใด และยังสามารถล็อกโฟกัสไปที่ดวงตาซึ่งถูกบดบังเพียงบางส่วนหรือชั่วครู่ค้างไว้ได้ด้วย
ออโตโฟกัสตรวจจับใบหน้าและดวงตาของสัตว์เลี้ยงโฉมใหม่
บันทึกภาพนิ่งได้เมื่อโฟกัสไปที่ดวงตาของสุนัขหรือแมว แม้จะเป็นในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติในก่อนหน้านี้ก็ตาม ซึ่งสามารถตรวจจับใบหน้าของสุนัขหรือแมวในการถ่ายวิดีโอได้ด้วยเช่นกัน
จำเป็นต้องใช้เฟิร์มแวร์ 3.0
ประสบการณ์การรับชมที่บริสุทธิ์
ราวกับรับชมของจริงอยู่
ช่องมองภาพ Quad VGA 3.6 ล้านจุดรุ่นใหม่
มุมมองอันน่าทึ่ง
ใช้การแสดงผล QUAD VGA ที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษ เพิ่มระบบออปติกของ Nikon เพื่อการขยายซึ่งรวมไปถึงชิ้นเลนส์แอสเฟอริคัลและชั้นเคลือบฟลูออรีน แล้วคุณก็จะได้ประสบการณ์ EVF ที่ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน อาการแล็กและภาพมืดต่ำ, การครอบคลุมการมองเห็นภาพ 100% (โดยประมาณ), ความคมชัดจากมุมจรดมุม และการขยายที่คมชัด มันให้ความรู้สึกแบบช่องมองภาพแบบออปติคัล ซึ่งคุณสามารถใช้มันได้กับทั้งภาพถ่ายและวิดีโอ
การแสดงผลข้อมูลแบบใหม่ที่เป็นรูปไอคอน
จ้องมองไปที่ช็อตเด็ด
แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้อย่างไม่บดบังภาพและง่ายต่อการมองดู เมนูที่กำหนดเองได้แบบใหม่จะปรากฏอยู่ตรงด้านขวาของช่องมองภาพ เพื่อให้คุณสามารถปรับการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาออกจากภาพที่ถ่ายแต่อย่างใด ที่ทำให้คุณสามารถดูโหมดโฟกัส, ไวต์บาลานซ์, ค่าแสง, การตั้งค่า VR, Picture Control และข้อมูลอื่น ๆ ทั้งหมดได้ ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของค่าแสงและไวต์บาลานซ์ ระบบช่วยลดภาพสั่นไหว และระยะชัดลึกได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูภาพถ่ายหรือวิดีโอที่คุณเพิ่งถ่ายได้ด้วย
ระบบช่วยลดภาพสั่นไหว VR ในตัว
ดูนิ่งในการถ่ายทุกสิ่ง
ระบบช่วยลดภาพสั่นไหว VR ที่หยุดการสั่นไหวได้ถึง 5 ครั้ง
ระบบช่วยลดภาพสั่นไหว VR 5 แกนในตัวอันทรงพลังนั้นใช้ได้กับเลนส์ NIKKOR Z ทุกชนิดที่คุณใช้ ระบบช่วยลดภาพสั่นไหวสามารถหยุดการสั่นไหวได้ถึงห้าสต็อป³ และได้ถึงห้าทิศทาง ได้แก่ yaw, pitch, roll, X และ Y และในระหว่างที่ทำการบันทึกวิดีโอ ระบบลดการสั่นไหวด้านออปติคัลจะทำงานร่วมกับระบบลดภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-VR) เพื่อให้ได้การถ่ายที่นิ่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก โหมด VR ปกติสำหรับวัตถุที่อยู่นิ่ง โหมด VR สปอร์ตสำหรับวัตถุที่เคลื่อนไหว
VR สำหรับเลนส์ NIKKOR F เมาท์
เป็นครั้งแรกที่เลนส์ F เมาท์ NIKKOR อย่าง AF-S NIKKOR 105 มม. f/1.4E ED หรือ AF-S NIKKOR 14-24 มม. f/2.8G ED จะได้รับประโยชน์จาก VR 3 แกนในตัว⁴ เลนส์ NIKKOR ที่มี VR อยู่แล้ว เช่น AF-S NIKKOR 70-200 มม. f/2.8E FL ED VR จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมของแกนม้วนสำหรับ VR ทั้ง 3 แกน เพียงแค่เพิ่มเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ เสริมเข้าไปแล้วคุณก็พร้อมที่จะลุยแล้ว
ขุมพลังในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่พกพาได้
สร้างขึ้นมาเพื่อวิดีโอ
ฟูลเฟรม 4K Ultra HD
การผลิตอันน่าทึ่งเริ่มต้นที่นี่
ถ่ายวิดีโอ 16:9 4K UHD/30p คุณภาพระดับภาพยนตร์แบบฟูลเฟรมโดยใช้ความกว้างและความละเอียดทั้งหมดของเซ็นเซอร์การรับแสงด้านหลังของ Z 6 การอ่านค่าแบบเต็มพิกเซลสำหรับฟุตเทจ 4K ที่คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมข้อมูลที่สมบูรณ์เทียบเท่า 6K ผลลัพธ์ดูสะอาดตาที่มี ISO สูง ปัจจัยการตัดส่วนภาพเป็นศูนย์พร้อมเลนส์ NIKKOR Z และ F เมาท์ NIKKOR แบบฟูลเฟรม เน้นสีจุดโฟกัสทั้งในการบันทึก 4K และ 1080p พร้อมกันกับภาพนิ่ง 8MP⁵ นี่คือ 4K ตามที่ตั้งใจให้เป็น
เหลื่อมเวลา 4K
เดินทางผ่านกาลเวลา
ถ่ายภาพนิ่งความละเอียดเต็มที่ได้ 9,999 ภาพแบบเว้นช่วงเวลา (และลดอาการสั่นไหวจากชัตเตอร์เป็นศูนย์) จากนั้นรวมภาพเหล่านี้เข้าด้วยกันเป็นภาพยนตร์ 4K หนึ่งเรื่องด้วยซอฟต์แวร์จากภายนอก หรือสร้างลำดับเหลื่อมเวลาได้ทันทีในกล้อง ด้วยค่าแสงที่ราบรื่นและช่วงระบบวัดแสงเวลาที่มีแสงน้อยที่กว้างขึ้น เหมาะสำหรับเส้นแสงดาวและการวาดเส้นด้วยแสง
N-Log ใหม่พร้อม View Assist
รายละเอียดสูงสุด ดูได้ในตัวกล้องเลย
รูปแบบ N-LOG เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ด้วยช่วงไดนามิก เงา และไฮไลท์สูงสุด 12 สต็อป เพื่อให้การไล่ระดับสีมีความแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้สามารถตรวจสอบโฟกัสและค่าแสงเฉพาะจุดได้ง่ายขึ้น ฟังก์ชัน View Assist ใหม่จะแสดงการชดเชยการไล่ระดับสีอย่างง่าย ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการยืนยันภาพฟุตเทจในตอนท้าย
Nikon N-Log 3D LUT
เก็บรายละเอียดพิเศษในวิดีโอของคุณด้วย N-Log 10 บิท เพื่อใช้ประโยชน์จากช่วงไดนามิกของเซ็นเซอร์ภาพ จากนั้นใช้ N-Log 3D LUT (ตารางค้นหา) ของ Nikon กับฟุตเทจเพื่อสร้างความแม่นยำของสีใหม่ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Nikon LUT มีจำหน่ายสำหรับพื้นที่สี Rec. 709 และจัดระดับสีได้ทันทีใน Adobe Premiere Pro CC, Apple Final Cut Pro X หรือ Blackmagic Design DaVinci Resolve 15 LUT นี้ช่วยให้สามารถปรับความสว่าง ความอิ่มตัวของสี และเฉดสีได้
รหัสเวลาในตัวแบบใหม่
คุณสามารถใส่รหัสเวลาในกล้องให้กับฟุตเทจทั้งหมดที่ถ่ายด้วย Z 6 ได้เพื่อการซิงค์และการลงบันทึกข้อมูลที่ง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการตัดต่อการถ่ายภาพจากกล้องหลาย ๆ ตัว
วิดีโอแบบสโลว์โมชัน
บันทึกทุกรายละเอียดของการเคลื่อนไหวได้ที่ 120 FPS จากนั้นก็ลองเล่นวิดีโอที่ถ่ายที่ 30, 25 หรือ 24 FPS ดู เพื่อให้ได้ภาพสโลว์โมชันความละเอียดสูง 1080p ที่จะทำให้อ้าปากค้าง
โหมดพื้นที่ออโตโฟกัส 4 โหมด
โหมดพื้นที่ออโตโฟกัส 4 โหมดสำหรับวิดีโอ: ออโตโฟกัสจุดเดียว ออโตโฟกัสพื้นที่กว้าง (S หรือ L) และออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ การสลับใช้ระหว่างออโต้โฟกัสตรวจวัดระยะห่างและออโต้โฟกัสตรวจวัดคอนทราสต์โดยอัตโนมัติที่ราบรื่นโดยอิงตามสถานการณ์ เลียนแบบเทคนิคการดีงโฟกัสได้ด้วยการควบคุมเมื่อออโต้โฟกัสเริ่มและหยุดทำงานในโหมด AF-C ด้วยการใช้ตัวเลือกความเร็วออโต้โฟกัสและความไวในการติดตามออโต้โฟกัสต่าง ๆ
การส่งข้อมูล HDMI 10 บิตรุ่นใหม่
การบันทึกแบบ 8 และ 10 บิตนั้นแตกต่างกันอย่างไร ก็แค่จะมีสีมากกว่าแค่ประมาณ 1 พันล้านสีเท่านั้นเอง (ข้อมูลที่มากกว่า 64 เท่า) เพื่อความยืดหยุ่นหลังขั้นตอนการถ่ายทำที่มากกว่าเดิมเยอะ บันทึกได้โดยตรงไปยังเครื่องบันทึกภายนอกด้วยการส่งข้อมูล 10 บิตผ่าน HDMI ซึ่งเป็นมาตรฐานของวงการ บันทึกไฟล์ภาพยนตร์ 4K UHD 8 บิตที่ไม่มีการบีบอัดข้อมูลไปยังการ์ดหน่วยความจำและเครื่องบันทึกภายนอกได้พร้อม ๆ กัน (Atomos Open Protocol รองรับการเริ่มต้น/หยุดการซิงค์)
ออโต้โฟกัสที่ราบรื่นและเงียบ
ความเร็ว ความไหลลื่น และความแม่นยำของระบบออโต้โฟกัสของ Z 6 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวิดีโอ มันทำงานได้แบบแทบจะไร้เสียง ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่ไมโครโฟนภายนอกจะบันทึกเสียงของมันไว้ได้ เมื่อใช้กับเลนส์ NIKKOR Z อาการ “breathing” และ “อาการสั่น” นั้นจะถูกขจัดออกไปอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งคุณสามารถสัมผัสเลือกตำแหน่งโฟกัสโดยใช้ LCD เพื่อสลับเปลี่ยนตัวแบบอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย
ชุดถ่ายภาพยนตร์ Z 6
การผลิตวิดีโอที่น่าทึ่งเริ่มต้นที่นี่
เพิ่มความสามารถอย่างรอบด้าน
ความคิดสร้างสรรค์มาบรรจบกับนวัตกรรม
Z เมาท์รุ่นใหม่
เส้นผ่านศูนย์กลางภายในที่ใหญ่กว่า F เมาท์อันโด่งดังของ Nikon ถึง 17% กว้างกว่าทุกเมาท์ฟูลเฟรมที่มีอยู่⁶ เปลี่ยนความเป็นไปได้ใหม่ทั้งหมดด้วยการออกแบบเลนส์ ประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดีกว่าเดิม การกระจายแสงที่สม่ำเสมอจากมุมจรดมุม ค่ารูรับแสงสูงสุดที่กว้างถึง f/0.95 การส่งข้อมูลที่เร็วกว่าเดิมระหว่างกล้องกับเลนส์ นี่คือสมดุลในอุดมคติระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของเมาท์ เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ และระยะโฟกัสหน้าแปลน
ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 6 ใหม่
ระบบ EXPEED ที่รวดเร็วและครอบคลุมที่สุด โทนอันละเอียดอ่อนที่มีสีสันสดใส นอยส์ที่ลดลงโดยไม่สูญเสียรายละเอียดใด ๆ ความเร็วในการประมวลผลที่มากกว่าเดิม การสร้างความคมชัดระดับกลางแบบใหม่ควบคู่กับการสร้างความคมชัดแบบเดิม การชดเชยการเลี้ยวเบนสำหรับเลนส์ที่ลดค่ารูรับแสงลง การบันทึกภาพ 4K ด้วยการสร้างความคมชัดระดับกลาง, การควบคุมขอบมืด, การควบคุมความผิดเพี้ยนอัตโนมัติ และการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีตามแนวตั้งฉาก นี่คือมันสมองและมวลกล้ามเนื้อของ Z 6
เซ็นเซอร์ภาพ 24.5 แบบใหม่
เซ็นเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมที่มีการรับแสงด้านหลังขนาด 24.5MP ได้รับการออกแบบอย่างแม่นยำโดย Nikon ความละเอียด ความเร็วในการถ่ายภาพ และประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ผสานกันลงตัว ช่วงไดนามิกกว้างและเสียแสงไม่มากที่การลดแสงที่น้อยที่สุดตรงขอบของเฟรม สามารถเก็บภาพความละเอียดสูงของเลนส์ NIKKOR Z และ F เมาท์ NIKKOR นี่คือหัวใจสำคัญของความสามารถรอบด้านของ Z 6
การถ่าย 12 FPS
สร้างขึ้นเพื่อรองรับความเร็ว
ถ่ายได้สูงถึง 12 FPS ด้วยความละเอียดเต็มที่ในโหมด Hi+ (RAW 12 บิตหรือ JPEG) และไม่จำเป็นต้องใช้ชุดแบตเตอรี่ภายนอก เมื่อความเร็วนั้นสำคัญ และก็สำคัญเสมอมา คุณจะสามารถเก็บภาพที่คนอื่นอาจพลาดไป
ISO 51,200 (ขยายได้ถึง ISO 204,800)
เซ็นเซอร์ภาพขนาด 24.5MP ของ Z 6 พร้อมกับประสิทธิภาพการเก็บแสงและระบบลดสัญญาณรบกวน EXPEED 6 ที่ไร้ที่ติของเมาท์ของ Z ช่วยให้คุณถ่ายภาพและวิดีโอได้สวยงามในการตั้งค่า ISO ที่สูงมาก สูงสุดได้ถึง ISO 51,200 (ขยายได้ถึง ISO 204,800)
โหมดไร้เสียง
ข้อดีที่ยอดเยี่ยมของการออกแบบมิเรอร์เลสคือความสามารถในการถ่ายภาพได้เงียบมาก บันทึกช่วงเวลาสำคัญอย่างเงียบๆ ในระหว่างการบรรยาย งานแต่งงาน การถ่ายภาพทารกแรกเกิด...ไม่ว่าที่ใดก็ตาม ความเงียบมีค่าดั่งทองคำ
การเชื่อมต่อ
เชื่อมต่อแล้วหรือยัง ก็พอมีบ้าง
Wi-Fi® ในตัว
ส่งข้อมูลภาพไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะที่รองรับได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่าด้วยความเร็วถึง 25 Mbps เลือกระหว่างช่วงสัญญาณ 5 GHz และ 2.4 ช่วงสัญญาณGHz เพื่อความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่เหมาะสม⁷
Bluetooth Low Energy ในตัว
Z 6 สามารถเชื่อมต่ออัตโนมัติได้ทุกเมื่อที่อุปกรณ์อัจฉริยะที่รองรับของคุณนั้นอยู่ในรัศมี ส่งไฟล์ JPEG ด้วยความละเอียดดั้งเดิมหรือให้กล้องส่งภาพที่คุณถ่ายในเวอร์ชัน 2MB ให้โดยอัตโนมัติ
การถ่ายภาพระยะไกล
ด้วย SnapBridge เวอร์ชัน 2.5 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า คุณจะสามารถใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับเป็นหน้าจอและคอนโทรลเลอร์แยกได้ สัมผัสเพื่อโฟกัสและปรับการตั้งค่าต่าง ๆ อย่างโหมดค่าแสง ไวต์บาลานซ์ และสิ่งอื่น ๆ ได้ จากนั้นก็ลั่นชัตเตอร์ได้เลย
การชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน USB แบบใหม่
เป็นครั้งแรกของกล้องฟูลเฟรม Nikon ที่คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ EN-EL15b รุ่นใหม่ของ Z 6 ได้ในกล้องผ่านการเชื่อมต่อ USB-C มาตรฐานจากคอมพิวเตอร์ ปลั๊กไฟติดผนัง หรืออุปกรณ์การชาร์จแบบอื่น ๆ⁸ มีแบตเตอรี่ EN-EL15a/EN-EL15 อยู่แล้วหรือ⁹? ใช้งานกับ Z 6 ได้เช่นกัน
การเชื่อมต่อแบบใหม่
เชื่อมต่อ Mac หรือ PC ผ่าน Wi-Fi เพื่อส่งไฟล์ RAW, JPEG และภาพยนตร์ได้แบบไร้สาย มีสองโหมดให้ใช้งาน: โหมด Camera Access Point สำหรับการเชื่อมต่อไปยัง PC ได้โดยตรง และโหมด Station (STA) สำหรับการเชื่อมต่อผ่านเราเตอร์¹⁰
ไฮไลต์เพิ่มเติม
มีอีกมากมาย
จอภาพสัมผัส HD แบบปรับเอียงได้
ความงดงามสำหรับสายตา
ล้ำเลิศ สว่าง น่าทึ่ง
จอภาพสัมผัสความละเอียดสูงอันงดงามที่คมชัดและสดใสราวกับหน้าจอของสมาร์ทโฟน 3.2 นิ้ว 2.1 ล้านจุด คมชัดสุด ๆ และดูมีชีวิตชีวา ปรับเอียงได้เพื่อการถ่ายที่มุมสูงและต่ำ การควบคุมผ่านจอภาพสัมผัส หน้าจอแสดงผลนี้เป็นอะไรที่ใช้งานง่ายอย่างยิ่ง
ราวกับใช้สมาร์ทโฟน
Nikon นำพาการควบคุมผ่านจอภาพสัมผัสไปสู่อีกระดับ สัมผัสเพื่อโฟกัส บีบเพื่อซูม สัมผัสเพื่อลั่นชัตเตอร์ ปัดเพื่อเลือกดูภาพถ่ายและวิดีโอ เลื่อนดูการตั้งค่าได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน บีบเพื่อขยายภาพในหน้าจอเพื่อดูความคมชัดที่คมชัดแบบสุด ๆ เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกแห่งจอภาพสัมผัส และนี่คือกล้องที่มีจอภาพสัมผัส
เมนูที่คมชัดและใสกว่าเดิม
เป็นที่คุ้นเคยสำหรับนักถ่าย Nikon DSLR ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่ของระบบ Nikon เมนูและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Z 6 นั้นดูงดงาม สดใส และง่ายต่อการใช้งานด้วยการควบคุมแบบสัมผัส เพิ่มฟังก์ชันโปรดของคุณลงในเมนู (i) ที่มีการตั้งค่ากว่า 30 แบบได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็เข้าถึงฟังก์ชันเหล่านั้นได้จาก LCD หรือ EVF
การควบคุมการถ่ายจากระยะไกลและแฟลชเสริมภายนอก Rf
บันทึกและสร้างสรรค์ได้จากระยะไกล
ควบคุมแสงสว่างให้อยู่มือด้วยแฟลชเสริมภายนอกของ Nikon ที่รองรับ ใช้รีโมตคอนโทรลเสริมแบบไร้สาย WR-R10 เพื่อควบคุมแฟลชเสริมภายนอก SB-5000 จากอีกห้อง ขณะหลบมุมอยู่ หรือกลางแจ้งท่ามกลางแสงอาทิตย์ได้ คุณสามารถใช้การควบคุมการทำงานแฟลชแบบไร้สายด้วยการใช้แฟลชเสริมภายนอกที่ควบคุมด้วยระบบออปติกอย่าง SB-700 และ SB-500 ได้ด้วย คุณสามารถใช้รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR-1 และ WR-R10 สำหรับการถ่ายจากระยะไกลได้
การซ้อนโฟกัสที่ดีขึ้น
สร้างสรรค์ภาพได้ด้วยระยะชัดลึกที่ดูไม่น่าเชื่อด้วยการใช้โหมดการเลื่อนโฟกัส ฟีเจอร์ Focus Peaking แบบใหม่ช่วยยืนยันโฟกัสในแต่ละชั้น
ใช้งานได้กับ CFexpress
กล้อง Z 6 และ Z 7 ทุกรุ่นใช้เฟิร์มแวร์ 3.0 หรือรุ่นใหม่กว่าที่รองรับการ์ดหน่วยความจำ XQD และ CFexpress™ ที่เลือก ซึ่งเป็น SD ที่เหนือชั้นกว่าในด้านความเร็วการล้างข้อมูลบัฟเฟอร์ที่รวดเร็วและพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่มากมาย
ฟีเจอร์พิเศษของ D850 กว่า 20 รายการ
เอ่ยออกมาเลย เพราะกล้องมีให้หมด
ยังอยากได้เพิ่มอีกไหม Focus Peaking, วิดีโอสโลว์โมชัน, การส่งข้อมูลแบบ WT-7, การรับรู้ฉากขั้นสูง, การประมวลผล RAW เป็นชุด, รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส (1:1), การถ่ายเว้นช่วงเวลาแบบไร้เสียง, ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ด้านหน้า, การถ่ายภาพแบบไร้เสียง, ตัวลดทอนเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย
รองรับการส่งข้อมูลวิดีโอแบบ RAW
อัปเกรดกล้องของคุณเพื่อส่งข้อมูล ProRes RAW และฟุตเทจ Blackmagic RAW จากเซ็นเซอร์ภาพไปยังอุปกรณ์บันทึกภายนอกที่รองรับได้โดยตรง การส่งข้อมูลวิดีโอแบบ RAW ช่วยรักษาข้อมูลเซ็นเซอร์ RAW ของกล้องไว้ได้ เพื่อช่วยให้คุณได้รับความยืดหยุ่นได้สูงสุดระหว่างกระบวนการหลังการถ่ายทำ
¹รองรับออโตโฟกัส/การปรับค่าแสงอัตโนมัติแบบเต็มที่เมื่อใช้เทเลคอนเวอร์เตอร์ FX หรือ DX AF-S Type G/D/E, AF-P type G/E, AF-I type D และ AF-S / AF-I
²เป็น PDAF ในเซ็นเซอร์ 435 จุดเมื่อใช้สำหรับวิดีโอในรูปแบบภาพยนตร์แบบ FX ที่ใช้ออโตโฟกัสจุดเดียว
³ตามมาตรฐาน CIPA ค่านี้จะได้เมื่อต่อเข้ากับเลนส์ NIKKOR Z 24-70mm f/4 S โดยตั้งค่าการซูมไว้ที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด
⁴จำเป็นต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์ FTZ
⁵ระหว่างการบันทึก 4K
⁶ณ วันที่ 8/23/18
⁷หากใช้เลนส์ NIKKOR F เมาท์พร้อมเมาท์อะแดปเตอร์ FTZ อาจเกิดเสียงจากรูรับแสง กลไกขับเคลื่อนระบบป้องกันภาพสั่นไหว และกลไกขับเคลื่อนเลนส์ขณะเริ่มต้น เช่น ในขณะเปิดกล้อง
⁸อาจไม่สามารถใช้ในบางประเทศ
⁹ไม่สามารถใช้กล้องได้ขณะทำการชาร์จผ่าน USB
¹⁰แบตเตอรี่ EN-EL15a/EN-EL15 ไม่สามารถชาร์จในกล้องได้ผ่าน USB
¹¹ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ Wireless Transmitter Utility ไว้ในคอมพิวเตอร์