REACH A WHOLE NEW RANGE OF EXPRESSION WITH THE NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S

พบกับเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษ อันทรงพลังที่มาเสริมผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม NIKKOR Z S-Line f/2.8

กรุงเทพมหานคร – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มเลนส์ NIKKOR Z มีมุมกว้างเป็นพิเศษและให้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้คุณถ่ายทอดความงดงามอันคุ้นตาทั้งทิวทัศน์ของเมือง ธรรมชาติ และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เลนส์รุ่นใหม่นี้เป็นเลนส์มุมกว้างพิเศษ รูรับแสงกว้าง f/2.8 มีขนาดสั้นและน้ำหนักเบาที่สุด ซึ่งสามารถใช้ได้กับระบบเมาท์ Z เท่านั้น เลนส์ซูมอเนกประสงค์รุ่นนี้มีความสามารถอันน่าทึ่งของระบบออพติคที่ช่วยให้มืออาชีพสามารถถ่ายทอดภาพที่มีความคมชัดและคมชัดสูงสุดได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

“NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S เป็นเลนส์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพในการพกพา เพราะเป็นเลนส์ที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์และมีน้ำหนักเบา ให้คุณสร้างเรื่องราวที่งดงามในมิติใหม่ซึ่งเลนส์นี้สามารถถ่ายทอดได้อย่างทรงพลัง อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการถ่ายทอดความเป็นตัวคุณด้วยระยะครอบคลุมที่หลากหลายตั้งแต่มุมกว้างพิเศษ 14 มม. จนถึง 24 มม. และแสดงประสิทธิภาพที่เหนือระดับ ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอ” กล่าวโดยมร. คันทาโร่ ฟูจิวาระ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

คุณสมบัติหลักของเลนส์ NIKKOR Z 14-24MM F/2.8 S

ขยายช่วงการถ่ายภาพ มอบสมรรถนะที่เหนือชั้น

สนุกกับช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจของคุณได้อย่างอิสระโดยไม่รู้สึกรบกวนระหว่างการเดินสะพายกล้องไปตามที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพชีวิตในเมือง และได้คุณภาพของภาพที่เหนือระดับแม้ในฉากที่มืดสลัวหรือช็อตที่ได้รับแสงน้อย ควบคุมได้เต็มที่ว่าจะให้ภาพของคุณออกมาเป็นอย่างไร โดยควบคุมว่าจะให้วัตถุใดมีเอฟเฟกต์เบลอโดยใช้ความไวชัตเตอร์เร็วขึ้น เก็บภาพดอกไม้ไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจในแบบที่คุณต้องการ ถ่ายทอดภาพที่สวยงามด้วยโบเก้ที่ดูเป็นธรรมชาติเพื่อแสดงตัวแบบในภาพถ่ายให้ดูโดดเด่น พร้อมทั้งเก็บบันทึกบรรยากาศความจอแจของเมืองในฉากหลัง

ถ่ายภาพสถานที่สำคัญในเมือง เช่น สถาปัตยกรรม ให้เต็มสายตาได้อย่างง่ายดาย ควบคุมการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่และเพลิดเพลินด้วยระบบของนิคอนที่ควบคุมเรื่องความคลาดสีตามแนวแกน (Axial Chromatic Aberration) และแสงแฟลร์ในแนวระนาบ (Sagittal Coma Flare) ทำให้มั่นใจได้ว่าจะลดความบิดเบือน (Distortion) ให้เหลือเพียงเล็กน้อย และแสดงสีสันออกมาได้อย่างที่ตาเห็น การใช้เลนส์ NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ยังช่วยให้ผู้ใช้มุ่งความสนใจไปยังเรื่ององค์ประกอบภาพโดยปล่อยให้นิคอนเป็นผู้ดูแลทุกอย่างอยู่เบื้องหลังได้อย่างสบายใจ การจัดการแสง ฟุ้งและแสงแฟลร์เพื่อให้ได้ภาพที่คมกริบและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีการต้านทานสภาพย้อนแสง (Backlight Resistance Technology) ของ NIKKOR ตลอดจนการใช้โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลและโค้ทผิว ARNEO ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกลุ่มภูเขาสลับสูงต่ำที่มีแสงอาทิตย์ส่องอยู่ด้านหลัง

ประโยชน์ของระบบ Z

เมื่อคุณให้แรงบันดาลใจเป็นตัวนำพา มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่ากับการที่คุณจะมีเลนส์ที่ไว้ใจได้และน้ำหนักเบาไว้เป็นคู่หูในการถ่ายภาพตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องพะวงกับภาระน้ำหนักของกระเป๋าบนหลัง เลนส์NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S คือเลนส์มุมกว้างพิเศษ f/2.8 ที่มีขนาดสั้นและน้ำหนักเบาที่สุด โดยมีน้ำหนักเพียงประมาณ 650 กรัม ความยาวและน้ำหนักโดยรวมของเลนส์ถูกลดลงไปเป็นอย่างมากเพื่อให้ได้ความคล่องตัวที่เป็นเลิศ โดยยังคงรักษาคุณภาพของภาพในฐานะเลนส์ซูมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้เป็นจริงได้ด้วยประโยชน์ของระบบเมาท์ Z ที่ไม่ต้องมีชิ้นเลนส์แบบเดิมๆ ที่มีด้านโค้งขนาดใหญ่บริเวณชิ้นส่วนด้านหน้าอีกต่อไป

สร้างมาเพื่อพร้อมรับทุกสถานการณ์

มืออาชีพที่มองหาเลนส์เพิ่มเติมในชุด NIKKOR Z จะพบว่าเลนส์รุ่นนี้ใช้งานง่าย เนื่องจากมีระบบควบคุมการทำงานที่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงมีการสั่งการที่คุ้นเคยเหมือนเดิมจนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง โฟกัสวัตถุของคุณได้อย่างราบรื่น ง่ายดาย และแม่นยำ พร้อมกับรับประสบการณ์ทำงานที่ราบรื่นขึ้นและการตอบสนองเพิ่มมากขึ้นด้วยวงแหวนปรับโฟกัส ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของช่างภาพ

พบกับระบบสั่งการที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมวงแหวนควบคุม ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและใช้งานได้อย่างง่ายดายทั้งในการถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอ โดยในการบันทึกวิดีโอ คุณจะพบกับการเปลี่ยนโฟกัสและความสว่างที่ทำได้อย่างนุ่มนวล และยังสลับใช้ฟังก์ชันต่างๆ ได้โดยไม่มีเสียงการทำงานดังรบกวน ในแง่ของความเงียบ เลนส์มอบการทำงานที่เสียงเบาโดยลดเสียงจากการทำงานและกลไกขับเคลื่อนเลนส์ เนื่องจากมี Stepping Motor (STM) ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อให้คุณมีสมาธิจดจ่อได้ไม่สะดุดขณะทำงาน

เพราะว่าเลนส์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกของช่างภาพ ผู้ใช้จะสนุกไปกับแผงข้อมูลดิจิตอลบนตัวเลนส์ที่จะช่วยยืนยันข้อมูลโดยที่ไม่ต้องมองผ่านช่องมองภาพของกล้องอีกด้วย ให้คุณควบคุมทุกอย่างทั้งหมดให้อยู่หมัดโดยการปรับแต่งการทำงานด้วยการกำหนดฟังก์ชันให้เหมาะกับความต้องการของคุณด้วยปุ่มฟังก์ชันเลนส์ (L-Fn) ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถปรับค่าแสงให้เสถียรได้แม้ว่าฉากจะเปลี่ยนความสว่าง แม้แต่แสงไฟนีออนที่กะพริบวูบวาบในเมืองยามค่ำคืนก็ไม่อาจเป็นอุปสรรค ให้ผู้ใช้เก็บภาพที่ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติได้ด้วยระบบควบคุมค่ารูรับแสงของเลนส์

ออกแบบมาเพื่อความทนทาน

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เลนส์นี้เป็นที่ไว้วางใจได้อย่างแท้จริงคือการควบคุมค่ารูรับแสง (AE) เนื่องจากสร้างขึ้นโดยใช้กลไกรูรับแสงระบบแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้แน่ใจว่าทุกภาพจะแม่นยำเสมอแม้จะเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องก็ตาม

ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก เลนส์ก็มาพร้อมสมรรถนะการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำที่เหนือระดับ2 ซึ่งซีลเลนส์อย่างมีประสิทธิภาพให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองและหยดน้ำไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนที่ขยับได้ของเลนส์ พร้อมกันนั้น ชิ้นเลนส์ส่วนหน้าสุดยังเคลือบด้วยโค้ทผิวฟลูออรีนเพื่อมอบสมรรถนะป้องกันการเปรอะเปื้อน ซึ่งสามารถขจัดรอยสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้การทำความสะอาดเลนส์เป็นเรื่องง่าย คุณสมบัติที่ผ่านการคิดคำนึงมาเป็นอย่างดีเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากเลนส์ที่ให้ความทนทานและแข็งแรงมากยิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์ที่อาจต้องพบเจอ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ

เลนส์ที่พร้อมรับสถานการณ์นี้จะตอบสนองตามความต้องการหลากหลายได้ด้วยอุปกรณ์เสริมมากมาย เนื่องจากรองรับทั้งฟิลเตอร์แบบหมุนสวมเข้าที่แบบเดิมและฟิลเตอร์เจลด้านหลังด้วย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกระหว่างเลนส์ฮูดเฉพาะที่รองรับการต่อฟิลเตอร์ (HB-97) ซึ่งสามารถสวมฟิลเตอร์แบบหมุนสวมเข้าที่ขนาด 112 มม. เข้ากับฮูดได้โดยตรง หรือเลนส์ฮูดปกติ (HB-96) ที่เหมาะกับการใช้งานเมื่อไม่มีการต่อฟิลเตอร์ โดยแบบหลังน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ออกนอกสถานที่ เนื่องจากสะดวกต่อการพกพามากกว่าด้วยขนาดที่เล็กลง

[1] ในบรรดาเลนส์ซูมแบบเปลี่ยนได้รูปแบบ FX (ฟูลเฟรม) จากนิคอน ที่มีทางยาวโฟกัสสั้นสุด 14 มม. และค่ารูรับแสงสูงสุด f/2.8 สำหรับกล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่มีจำหน่าย ณ วันที่ 16 กันยายน 2020 อ้างอิงจากการวิจัยของนิคอน
[2] เลนส์ไม่รับประกันการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำในทุกสถานการณ์หรือภายใต้ทุกสภาวการณ์

การวางจำหน่าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ใหม่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดเยี่ยมชม www.nikon.co.th

เกี่ยวกับแบรนด์ NIKKOR

NIKKOR เป็นชื่อแบรนด์สำหรับเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพของนิคอน ชื่อ NIKKOR มาจากการเพิ่มตัวอักษร "r" ที่ถือเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในการตั้งชื่อเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพ มาประกอบกับคำว่า "Nikko" ซึ่งเป็นคำย่อแบบโรมันของ Nippon Kogaku K.K. อันเป็นชื่อเดิมที่ใช้เมื่อครั้งก่อตั้งบริษัท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา นิคอนได้ประกาศถึงความสำเร็จอีกขั้นด้วยยอดการผลิตเลนส์ NIKKOR จำนวน 110 ล้านชิ้นสำหรับกล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ของนิคอน

ในเดือนพฤศจิกายน 2023 นิคอนได้ฉลองครบรอบ 90 ปีของ NIKKOR ซึ่งได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับ MY NIKKOR

ช่างภาพทุกคนมีเรื่องราวที่อยากเล่า ก้าวเข้าสู่โลกที่ประกอบขึ้นจากมุมมองและการแสดงออกที่สร้างสรรค์ของช่างภาพนิคอน ไปที่ MY NIKKOR (mynikkor.com) เพื่อรับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณและการผจญภัยของพวกเขา แล้วให้ NIKKOR เป็นตัวกลางเชื่อมโยงคุณสู่วัฒนธรรมแห่งการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับนิคอน

นิคอนเป็นผู้นำระดับโลกด้านการสร้างภาพดิจิตอล เลนส์ที่มีความเที่ยงตรง และเทคโนโลยีการภาพถ่าย
อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานการออกแบบและเพิ่มความสามารถใหม่ๆ
ให้กับอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ได้รับรางวัลสำหรับผู้บริโภคและช่างภาพมืออาชีพ บริษัท นิคอน เซลล์
ประเทศไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล SLR ทั้งระดับผู้บริโภคทั่วไปและระดับมืออาชีพ,
อุปกรณ์และเลนส์จาก NIKKOR, อุปกรณ์แฟลชเสริมภายนอกและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ,
กล้องดิจิตอลคอมแพคตระกูลนิคอน COOLPIX,
อุปกรณ์เลนส์และกล้องส่องทางไกลทางการกีฬาของนิคอน และรวมถึงกล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ล่าสุด
โดยดำเนินการในประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

พูดคุยกับนิคอนและช่างภาพคนอื่นๆ บน Facebook NikonThailand  หรือบน Instagram Nikon Thailand