คุณสมบัติขั้นสูงและการควบคุมที่ใช้งานง่าย ทำให้กล้อง Z50II มอบประสิทธิภาพของกล้องระดับมืออาชีพให้กับช่างภาพทุกระดับทักษะและถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างง่ายดาย

ประเทศไทย, 7 พฤศจิกายน 2024 – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวกล้องมิเรอร์เลส Nikon Z50II ขนาด APS-C (รูปแบบ DX ของนิคอน) ซึ่งใช้ Nikon Z mount ในวันนี้

Nikon Z50II รองรับ Imaging Recipes ที่ให้ผู้ใช้พบประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบใหม่อย่างมีสไตล์โดยใช้ Nikon Imaging Cloud ผู้ใช้ไม่เพียงแต่สามารถบันทึกการปรับสี ความสว่าง คอนทราสต์ ฯลฯ ของตนให้เป็นสูตรสำเร็จได้เท่านั้น แต่ยังคงดาวน์โหลดค่าสีที่ตั้งไว้ล่วงหน้าสำหรับ Z50II ที่นิคอนแนะนำหรือที่สร้างสรรค์โดยครีเอเตอร์ชื่อดัง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) และบันทึกลงใน Cloud Picture Control ได้

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มปุ่ม Picture Control ใหม่ให้กับตัวกล้อง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงค่าสีที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้ในขั้นตอนเดียว ผู้ใช้จะได้รับความสะดวกสบายในการเปลี่ยน Picture Control ที่ใช้งานอยู่ขณะถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติก็ตาม สามารถใช้สูตรสำเร็จที่ดาวน์โหลดและบันทึกลงในกล้องได้ทันที ทำให้เพลิดเพลินกับการสร้างสรรค์สไตล์ของภาพได้หลากหลายมากขึ้นราวกับการเปลี่ยนฟิล์มหรือฟิลเตอร์ได้อย่างง่ายดาย

อีกทั้งการเพิ่มฟังก์ชัน Picture Control ใหม่ที่แสดงรายการที่ใช้บ่อยที่สุด ยังช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงสไตล์การถ่ายภาพที่ชื่นชอบได้อย่างรวดเร็ว สามารถดูตัวอย่างเอฟเฟ็กต์ของ Picture Control ได้ในจอแสดงผลแบบไลฟ์วิวในจอภาพของกล้องหรือช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ตามใจต้องการ

Z50II มาพร้อมกับระบบประมวลผลภาพ EXPEED 7 เช่นเดียวกับรุ่น Z9 นอกจากการรองรับการตรวจจับตัวแบบ 9 ประเภทเช่นเดียวกับรุ่นเรือธงของเราแล้ว ประสิทธิภาพของ [AF-A] ซึ่งจะตั้งค่าโหมดออโตโฟกัสโดยอัตโนมัติตามการเคลื่อนที่ของตัวแบบและการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก กล้องสามารถโฟกัสไปยังตัวแบบที่ต้องการได้โดยไม่ต้องปรับการตั้งค่าใดๆ แม้ว่าจะถ่ายภาพตัวแบบที่ไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวได้ เช่น สัตว์เลี้ยงและเด็กก็ตาม

เมื่อทำงานในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ การใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพการประมวลผลภาพที่เหนือระดับของ EXPEED 7 และเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นเอกสิทธิ์ของนิคอน ทำให้กล้องสามารถวิเคราะห์และจดจำตัวแบบและฉากได้ แล้วทำการปรับ AF, การควบคุมแฟลช และการควบคุมค่าแสงต่างๆ เช่น รูรับแสง ความไวชัตเตอร์ และการตั้งค่าความไว ISO ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพียงถือกล้องและกดชัตเตอร์ในช่วงเวลาที่ต้องการ ผู้ใช้ก็จะได้ภาพถ่ายในแบบที่เหมาะกับฉาก เช่น ภาพถ่ายที่มีโบเก้พื้นหลังที่สวยงาม หรือภาพถ่ายที่คมชัดโดยตัวแบบมีความพร่ามัวเล็กน้อย

ประสิทธิภาพของวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการบันทึกวิดีโอเต็มรูปแบบ ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 7 รองรับการสร้างวิดีโอ 4K UHD ความละเอียดสูงแบบ over sampling ที่ 5.6K¹ นอกจากนี้ ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ N-Log ที่ให้การไล่ระดับโทนสีที่ละเอียดและสมบูรณ์ สร้างการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง

นอกจากนี้ Z50II ยังเป็นกล้อง Z-Series ตัวแรกที่มีโหมดรีวิวผลิตภัณฑ์ที่โฟกัสไปยังวัตถุที่อยู่เบื้องหน้า รวมถึงฟังก์ชันตั้งเวลาถ่ายวิดีโอที่ให้ผู้ใช้สามารถระบุช่วงเวลา [2 วิ] หรือ [10 วิ] ก่อนที่การบันทึกจะเริ่มหลังจากกดปุ่มบันทึก ซึ่งจะทำให้กระบวนการตัดต่อง่ายขึ้นโดยลดฟุตเทจที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อบันทึกวิดีโอรีวิวและวิดีโอบล็อก อีกทั้งการรองรับการสตรีมผ่าน USB (UVC/UAC) ยังช่วยให้ผู้ใช้ส่งภาพที่คมชัดรองรับการประชุมออนไลน์และการสตรีมวิดีโอสดได้อย่างง่ายดาย เพียงเชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน

ที่ 1000 cd/m² ที่ติดตั้งในตัว Z50II มีความสว่างประมาณสองเท่าของ Nikon Z50 ทำให้ผู้ใช้สามารถเช็คตำแหน่งโฟกัสและรายละเอียดที่ขอบเฟรมได้อย่างง่ายดาย แม้ในสภาพแวดล้อมที่สว่าง เช่น กลางแจ้งในวันที่มีแสงแดดจ้า การลดความแตกต่างของความสว่างระหว่างการแสดงผลของช่องมองภาพกับความสว่างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ผู้ใช้ได้ภาพที่ต้องการได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังช่วยลดอาการปวดตาและความเมื่อยล้าในการถ่ายภาพอีกด้วย ช่องมองภาพแบบ EVF ที่สว่างจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้ในการมองผ่านช่องมองภาพซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้มีสมาธิกับตัวแบบและฉากที่อยู่ตรงหน้าเพื่อการถ่ายภาพที่สนุกสนานยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติเพิ่มเติมทั้งหมดของ Z50IIใหม่ โปรดดูที่ภาคผนวก A

วันนี้ Nikon Singapore Pte. Ltd. ยังได้ประกาศเปิดตัวสายลั่นชัตเตอร์ MC-DC3 ซึ่งเป็นสายลั่นชัตเตอร์ที่เข้ากันได้กับ Z50II ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและทิวทัศน์ยามค่ำคืน ไปจนถึงการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ (ผลิตภัณฑ์) สายลั่นชัตเตอร์ MC-DC3 ก็มีประโยชน์ในการลดผลกระทบจากกล้องสั่นเมื่อใช้ขาตั้งกล้อง นอกจากนี้ ยังใช้สำหรับการถ่ายภาพระยะไกลเพื่อลั่นชัตเตอร์เมื่ออยู่ห่างจากกล้องได้อีกด้วย สามารถล็อกปุ่มกดชัตเตอร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่กดลงจนสุดสำหรับการเปิดรับแสงนาน (การถ่ายภาพแบบเปิดชัตเตอร์ค้าง) หรือกดค้างไว้เพื่อถ่ายภาพต่อเนื่อง รวมถึงยังสามารถกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเพื่อถ่ายภาพโดยมีระยะเวลาหน่วงชัตเตอร์น้อยลง

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nikon Z50II, สายสายลั่นชัตเตอร์ MC-DC3 ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอนได้โดยไปที่ https://www.nikon.co.th.

• มาพร้อมกับคุณสมบัติการบันทึกภาพก่อนลั่นชัตเตอร์² ที่สามารถบันทึกภาพที่บัฟเฟอร์ได้สูงสุด 1 วินาทีก่อนที่ปุ่มกดชัตเตอร์ จะถูกกดลงจนสุด
• ครอบคลุมช่วง ISO ที่กว้าง 100–51200³ ของความไวแสงมาตรฐานเพื่อสัญญาณรบกวนที่น้อยลงและการแสดงภาพพื้นผิวและรายละเอียดที่คมชัดกว่า Z50
• มาพร้อมกับแฟลชในตัวกล้อง ซึ่งมีประโยชน์ในสถานการณ์ย้อนแสงหรือในสภาพแวดล้อมที่มืด เช่น เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน
• ระบบลดภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าของ Z50⁴
• รองรับการซูมความละเอียดสูง⁵ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถซูมเข้าไปยังตัวแบบได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพด้วยการบันทึกวิดีโอ แม้เมื่อใช้เลนส์ไพรม์ก็ตาม
• ไฟ REC จะแจ้งเตือนผู้ใช้และตัวแบบทันทีที่อยู่ระหว่างการบันทึกวิดีโอ
• มาพร้อมกับจอภาพแบบปรับมุมได้ขนาดใหญ่และชัดเจนพร้อมหน้าจอสัมผัสเพื่อการใช้งานที่ง่ายดาย
• เมื่อทำการถ่ายภาพนิ่งในแนวตั้ง อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของจอภาพและการแสดงข้อมูล EVF จะหมุนเป็นแนวตั้งโดยอัตโนมัติ ทำให้ตรวจสอบและใช้งานได้ง่ายขึ้น
• การออกแบบและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นระดับสูงกว่า รองรับการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าและการทำงานที่ราบรื่น