เข้าใกล้และบันทึกช่วงเวลาสำคัญด้วย NIKKOR Z 400MM F/2.8 TC VR S

สัมผัสประสิทธิภาพเหนือระดับของเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z รุ่นแรกที่มาพร้อมกับเทเลคอนเวอร์เตอร์ในตัวและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ประเทศไทย – นิคอน เซลล์ ประเทศไทย ขอแนะนำ เลนส์ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่รวดเร็วพร้อมเทเลคอนเวอร์เตอร์ 1.4x ในตัว ที่ช่วยให้ผู้ใช้ขยายขอบเขตการเข้าถึงได้อย่างราบรื่นโดยการสลับระหว่างสองทางยาวโฟกัส 400 มม. และ 560 มม. ทำให้รวดเร็วและแม่นยำ และมีความทนทาน น้ำหนักเบา และกะทัดรัด เลนส์ “ทูอินวัน” นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วได้อย่างง่ายดายในขณะเดินทาง

ผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ากับประสิทธิภาพด้านออพติคที่ยอดเยี่ยม เลนส์นี้เป็นแบบอย่างของกลุ่มผลิตภัณฑ์ NIKKOR Z S-Line ที่เหนือชั้น ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เหนือกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อนิยามความสมบูรณ์แบบของออพติคขึ้นมาใหม่และส่งเสริมการถ่ายทอดผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพการแข่งขันกีฬาที่ทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีด หรือดินแดนธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ ช่างภาพสามารถไว้ใจ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S สำหรับการถ่ายภาพสถานการณ์ต่างๆ อย่างแม่นยำจากระยะไกลและท่ามกลางสภาพการถ่ายภาพที่ท้าทาย

“ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับทางยาวโฟกัสสองระยะที่อยู่ในไพรม์เลนส์เพียงตัวเดียว พร้อมทั้งยังคงประสิทธิภาพการแสดงภาพที่ยอดเยี่ยมไว้ได้ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทานของออโตโฟกัส (AF) และการป้องกันแสงสะท้อน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมกับหลีกเลี่ยงปัญหาแสงแฟลร์และโกสต์ของเลนส์ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย เลนส์นี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่มีรูรับแสงกว้าง และยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้” มร. เรจิ มิยางิ กรรมการผู้จัดการของบริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

คุณสมบัติหลักของ NIKKOR Z 400MM F/2.8 TC VR S

เพิ่มประสิทธิภาพด้านออพติคด้วยเทคโนโลยีใหม่

ครั้งแรกสำหรับเลนส์ NIKKOR Z กลไกออโตโฟกัสที่พัฒนาโดยนิคอนประกอบด้วยตัวเข้ารหัส ABS แบบออพติค (สัมบูรณ์) ที่ตรวจจับจำนวนการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวและความเร็วของกลุ่มเลนส์โฟกัส ซึ่งมีความแม่นยำมากขึ้นประมาณ 20 เท่า พร้อมทั้ง Silky Swift VCM (วอยซ์คอยล์มอเตอร์)[1] ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นโดยที่แทบจะไม่ได้ยินเสียง ประสิทธิภาพของออโตโฟกัสที่ได้รับการปรับปรุงนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและโฟกัสได้เต็มที่ขณะถ่ายภาพความเร็วสูง โดยให้ภาพและวิดีโอที่คมชัดโดยไม่มีสัญญาณรบกวนและการสั่นไหว เลนส์ยังสามารถจัดการปัญหากล้องสั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในขณะถ่ายภาพที่ทางยาวโฟกัส 560 มม. ด้วยระบบลดภาพสั่นไหว (VR) ในเลนส์สูงสุด 5.5 สต็อป[2]

การโค้ทผิว Meso Amorphous ใหม่ล่าสุดใช้การเคลือบหลายชั้นขั้นสูงสุดแบบใหม่ที่ด้านบนของโค้ทผิว ARNEO ซึ่งให้ประสิทธิภาพการป้องกันแสงสะท้อนได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของ NIKKOR ด้วยการเลี้ยวเบนของแสงที่ใช้งานได้จริงเพื่อยับยั้งปัญหาแสงแฟลร์และโกสต์อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะแสงที่ไม่เอื้ออำนวย

ถ่ายภาพแบบไม่มีสะดุดและมีความละเอียดสูงด้วยทางยาวโฟกัสคู่

สลับระหว่างสองมุมมองภาพได้โดยไม่ยุ่งยากด้วยเลนส์ไพรม์ซูเปอร์เทเลโฟโต้เพียงตัวเดียว ยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพโดยช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสไปที่วัตถุของตนเพียงอย่างเดียวและได้ภาพที่สวยงาม เลนส์นี้ครอบคลุมทางยาวโฟกัสสองระยะคือ 400 มม. และ 560 มม. ด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์ 1.4x ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพในระยะไกลยิ่งขึ้นและยังมาพร้อมคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม สวิตช์เทเลคอนเวอร์เตอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดที่ด้านข้างของเลนส์ในระยะที่เอื้อมถึงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถสลับทางยาวโฟกัสไปมาโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง ท่าทาง และการจับกล้อง

เลนส์ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S ให้ภาพที่มีความละเอียดสูงอย่างสม่ำเสมอ และยังมีความสามารถในการแก้ไขและแสดงภาพที่ยอดเยี่ยม แม้กระทั่งที่ขอบเฟรม มาพร้อมการกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ (ED), กระจก Super ED, เลนส์ฟลูออไรท์ และชิ้นเลนส์เชิงหักเหช่วงคลื่นสั้น (SR) ที่ลดความคลาดเคลื่อนสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ แสงสว่างจากค่ารูรับแสงสูงสุด f/2.8 ยังพร้อมช่วยเหลือผู้ใช้เมื่อถ่ายภาพในสภาวะที่มีแสงน้อย ซึ่งช่วยลดความพร่ามัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้โบเก้ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติสำหรับการถ่ายทอดผลงานแบบสามมิติ

ฟังก์ชันการทำงานที่ดีที่สุดด้วยการทำงานที่เสถียรและราบรื่น

ถ่ายภาพด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ได้ง่ายกว่าเดิมด้วย NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S เลนส์ที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กลงและเบายิ่งกว่า โดยเป็นเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่พกพาสะดวกอย่างยิ่งและมีน้ำหนักประมาณ 2,950 กรัม ช่างภาพสามารถเพลิดเพลินกับการทำงานที่เสถียรยิ่งขึ้นเมื่อต้องถือกล้องถ่ายภาพหรือแพนกล้องบนโมโนพอด เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงของเลนส์อยู่ตรงกลางของคอลลาร์ขาตั้งกล้อง ทำให้กล้องมีน้ำหนักที่สมดุล

เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น มีปุ่มและวงแหวนอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อมถึงและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการระดับมืออาชีพ คุณสมบัติรี้ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขฟังก์ชันของเลนส์เพื่อให้เหมาะกับความต้องการได้มากขึ้น การควบคุมดังกล่าวรวมถึงวงแหวน Fn, วงแหวนควบคุม, ปุ่ม Fn ของเลนส์ (1/2) และปุ่มกำหนดค่าการจดจำสำหรับการใช้ฟังก์ชันการเรียกคืนการจดจำ[3] ที่ให้คุณจัดเก็บและกลับสู่ตำแหน่งโฟกัสที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ใช้บ่อย เติมเต็มความสง่างามของการออกแบบที่โดดเด่นด้วยแผ่นโลหะชื่อรุ่นและวงแหวนนิคอนสีเหลืองที่คุ้นเคย เพื่อให้เข้ากับตราสัญลักษณ์โลหะ NIKKOR และ S

ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำภายใต้สภาวะต่างๆ ได้อย่างเหนือชั้น[4] ด้วยโค้ทผิวฟลูออรีนที่พื้นผิวด้านหน้าสุดของเลนส์เพื่อป้องกันการปนเปื้อน และการซีลอย่างมีประสิทธิภาพบนส่วนต่างๆ ของเลนส์ด้วยปะเก็นยางรอบเมาท์เลนส์ เพื่อความอุ่นใจ เลนส์ยังมีช่องนิรภัยที่ใช้กับสายนิรภัยแบบต่างๆ ในท้องตลาดได้

[1] คำเตือน: ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นี้หากคุณมีเครื่องกระตุ้นหัวใจหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ แม่เหล็กในผลิตภัณฑ์นี้อาจทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ทำงานผิดปกติ

[2] ในโหมด [NORMAL] สามารถใช้ค่านี้เมื่อติดตั้งกับกล้องมิเรอร์เลสที่มีเซ็นเซอร์ภาพขนาดฟิล์ม 35 มม.

[3] ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับกล้องเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีก่อนใช้งาน

[4] เลนส์ไม่รับประกันการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำในทุกสถานการณ์หรือภายใต้ทุกสภาวการณ์ 

การวางจำหน่าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ NIKKOR Z 400mm f/2.8 TC VR S ใหม่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดเยี่ยมชม www.nikon.co.th 

เกี่ยวกับแบรนด์ NIKKOR

NIKKOR เป็นชื่อแบรนด์สำหรับเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพของนิคอน ชื่อ NIKKOR มาจากการเพิ่มตัวอักษร "r" ที่ถือเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในการตั้งชื่อเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพ มาประกอบกับคำว่า "Nikko" ซึ่งเป็นคำย่อแบบโรมันของ Nippon Kogaku K.K. อันเป็นชื่อเดิมที่ใช้เมื่อครั้งก่อตั้งบริษัท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา นิคอนได้ประกาศถึงความสำเร็จอีกขั้นด้วยยอดการผลิตเลนส์ NIKKOR จำนวน 110 ล้านชิ้นสำหรับกล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ของนิคอน

ในเดือนพฤศจิกายน 2023 นิคอนได้ฉลองครบรอบ 90 ปีของ NIKKOR ซึ่งได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับ MY NIKKOR

ช่างภาพทุกคนมีเรื่องราวที่อยากเล่า ก้าวเข้าสู่โลกที่ประกอบขึ้นจากมุมมองและการแสดงออกที่สร้างสรรค์ของช่างภาพนิคอน ไปที่ MY NIKKOR (mynikkor.com) เพื่อรับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณและการผจญภัยของพวกเขา แล้วให้ NIKKOR เป็นตัวกลางเชื่อมโยงคุณสู่วัฒนธรรมแห่งการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับนิคอน

นิคอนเป็นผู้นำระดับโลกด้านการสร้างภาพดิจิตอล เลนส์ที่มีความเที่ยงตรง และเทคโนโลยีการภาพถ่าย
อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานการออกแบบและเพิ่มความสามารถใหม่ๆ
ให้กับอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ได้รับรางวัลสำหรับผู้บริโภคและช่างภาพมืออาชีพ บริษัท นิคอน เซลล์
ประเทศไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล SLR ทั้งระดับผู้บริโภคทั่วไปและระดับมืออาชีพ,
อุปกรณ์และเลนส์จาก NIKKOR, อุปกรณ์แฟลชเสริมภายนอกและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ,
กล้องดิจิตอลคอมแพคตระกูลนิคอน COOLPIX,
อุปกรณ์เลนส์และกล้องส่องทางไกลทางการกีฬาของนิคอน และรวมถึงกล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ล่าสุด
โดยดำเนินการในประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

พูดคุยกับนิคอนและช่างภาพคนอื่นๆ บน Facebook NikonThailand  หรือบน Instagram Nikon Thailand