นิคอนสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยความสามารถของออโตโฟกัสที่น่าทึ่ง ประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยอันทรงพลังด้วย Z5II
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดช่วยให้ช่างภาพเข้าถึงนวัตกรรมระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดายในทุกช่วงของการเดินทาง
ประเทศไทย 3 เมษายน 2025 – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการถ่ายภาพด้วยการเปิดตัว Z5II กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่ออกแบบมาเพื่อมอบ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในสภาวะที่ต้องการความแม่นยำสูง ความสามารถในการรังสรรค์ภาพขั้นสูงของ Z5II ช่วยให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพที่สวยงามและมีคุณภาพสูงด้วยความแม่นยำที่เหนือชั้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มี แสงน้อย ออโตโฟกัสอันทรงพลัง การประมวลผลภาพที่ล้ำสมัย และระบบป้องกันภาพสั่นไหวขั้นสูงที่ทำให้มั่นใจ ได้ถึงผลลัพธ์ที่คมชัดในทุกเฟรม จึงกลายเป็นกล้องคู่ใจในฝันสำหรับทั้งช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่มองหา การควบคุมและความอเนกประสงค์ระดับสูงสุด
ประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยมในทุกสภาวะแสง ทุกช่วงเวลา
Z5II 24.5 ล้านพิกเซล ได้รับการออกแบบมาเพื่อขยายขอบเขตของประสิทธิภาพการรังสรรค์ภาพ โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติประสิทธิภาพสูงที่น่าประทับใจมากมาย ได้แก่
- ระบบลดภาพสั่นไหว (VR) 5 แกนในตัวสูงสุด 7.5 สต็อป1
- -10EV2 ช่วงการตรวจจับออโตโฟกัส ต่ำที่สุดในตระกูลผลิตภัณฑ์กล้องของนิคอน และ
- ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 7
คุณสมบัติอันล้ำสมัยเหล่านี้ช่วยเสริมความนิ่งและความชัดให้ภาพที่คมชัดแม้ในสภาวะแสงน้อย ทำให้กล้องนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพตอนกลางคืน การถ่ายภาพในที่ร่ม และการจับภาพวัตถุในแสงไฟสลัว
ระบบการติดตามระยะโฟกัส 3 มิติและการบันทึกภาพความเร็วสูงอัจฉริยะของกล้อง ควบคู่ไปกับ ระบบออโตโฟกัสที่เร็วขึ้น 3 เท่า3 เมื่อเทียบกับ Z5 งช่วยให้สามารถโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหว
รวดเร็วกะทันหันได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะใช้ความเร็วสูงถึง 14 ภาพต่อวินาทีก็ตาม ไม่ว่าจะใช้จับภาพนกที่กำลังบิน
หรือช่วงเวลาเสี้ยววินาทีในการแข่งขันกีฬา Z5II เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชั่วพริบตาได้อย่างแม่นยำ
คุณสมบัติหลัก


© Maximilian


© Maximilian
1. ประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ไม่มีใครเทียบ
Z5II มาพร้อมกับประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยอันดับ 1 ของนิคอน โดยระยะตรวจจับออโตโฟกัสที่น่าประทับใจ
ซึ่งต่ำถึง -10 EV ไม่ว่าจะถ่ายภาพฉากกลางคืน การถ่ายภาพภายในอาคารที่มีแสงไฟสลัว หรือถ่ายภาพใน
สภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ผู้ใช้ก็สามารถไว้ใจระบบออโตโฟกัสของ Z5II ที่จะให้ภาพที่คมชัด
และมีรายละเอียดสม่ำเสมอ
2. การรังสรรค์ภาพความละเอียดสูงด้วย EXPEED 7
ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 7 ระดับเรือธงช่วยให้ Z5II
สามารถแสดงภาพความละเอียดสูงที่มีพื้นผิวพิเศษ
และรายละเอียดอันประณีตได้ ความสามารถของระบบลดสัญญาณรบกวนที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้กล้องรักษา
คุณภาพของภาพได้แม้จะอยู่ที่ค่าความไว ISO สูง ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเมื่อใช้เลนส์ที่มีค่า
รูรับแสงสูงสุดหรือเลนส์เทเลคอนเวอร์เตอร์
3. ออโตโฟกัสรุ่นใหม่ที่มาพร้อมการตรวจจับวัตถุ 9 ประเภท
Z5II มีระบบตรวจจับวัตถุขั้นสูงของนิคอน ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อจดจำและติดตามวัตถุได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สัตว์ (สุนัข แมว และนก) และยานพาหนะ (รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน รถไฟ และเครื่องบิน) ความสามารถในการตรวจจับที่ได้รับการปรับปรุงนี้ช่วยให้มั่นใจในประสิทธิภาพของออโตโฟกัสที่แม่นยำ แม้ในสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรวดเร็ว
4. การรังสรรค์ภาพขั้นสูงและระบบการจดจำฉากอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ AI
เทคโนโลยี AI ที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึกของนิคอนทำให้ Z5II ปรับให้เข้ากับฉากต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด วิเคราะห์และจดจำวัตถุได้แบบเรียลไทม์ ระบบขั้นสูงที่พัฒนาโดยใช้ AI นี้จะปรับปรุงปสิทธิภาพการตั้งค่าแสงที่สำคัญ รวมถึงรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์, ค่าความไว ISO และออโตโฟกัส มอบคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมโดยมีการปรับ
ด้วยตนเองเพียงเล็กน้อย


ปุ่ม Picture Control ของ Nikon Z5II ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างสูตรการรังสรรค์ภาพต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
อีกทั้ง Z5II ยังเป็นกล้องมิเรอร์เลสรูปแบบ FX รุ่นแรกที่มีปุ่ม Picture Control โดยเฉพาะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ
สลับระหว่าง การตั้งค่าสีและเฉด (Imaging Recipes) ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสัมผัสกับรูปแบบศิลป์ต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ แม้ในโหมดการถ่ายภาพออโต การรองรับการตั้งค่าสีและเฉด (Imaging Recipe) สูงสุด 9 สูตรต่อกล้อง จึงทำให้ช่างภาพสามารถใช้
ค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าของนิคอนได้อย่างลื่นไหล หรือสร้างและแชร์ค่าของตนเองได้ มอบความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์
ที่มากขึ้น
5. วิดีโอ 4K และโหมดการบันทึกวิดีโอขั้นสูงสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์
Z5II ที่สร้างขึ้นมาเพื่อผู้สร้างภาพยนตร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มอบความสามารถในการบันทึกวิดีโอที่หลากหลายสำหรับทั้งผู้ที่ทำเป็นงานอดิเรกและมืออาชีพ รองรับวิดีโอ 4K และการบันทึกวิดีโอแบบ N-RAW 12-บิท จึงให้รายละเอียดและช่วงไดนามิกที่เหมือนจริง มั่นใจได้ว่าฟุตเทจวิดีโอคุณภาพสูงจะพร้อมสำหรับขั้นตอนหลังการถ่ายทำ ช่างภาพวิดีโอสามารถบันทึกฟุตเทจคุณภาพสูงได้ด้วยการบันทึก 4K 60p ในโหมด DX และสูงสุดถึง 4K 30p ในโหมด FX โดยใช้ Supersample 6K เพื่อรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การบันทึกวิดีโอระดับ Full HD ที่ 120p จะช่วยให้การถ่ายภาพสโลว์โมชันเป็นไปอย่างราบรื่น
โหมดการบันทึกวิดีโอแบบ N-Log, HLG และ SDR ที่มีให้ใน Z5II ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการไล่ระดับสี ทำให้ Z5II เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการบอกเล่าเรื่องในทุกสภาวะแสง
6. ใช้งานร่วมกันได้ไม่มีสะดุดและการควบคุมที่ได้รับการปรับปรุง


Z5II ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับระบบเมาท์เลนส์ Z ของนิคอนได้อย่างราบรื่น ช่วยให้เข้าถึงเลนส์ประสิทธิภาพสูงหลากหลายรุ่นได้ ความสามารถของรีโมตคอนโทรลช่วยเพิ่ม
ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการการทำงานแบบไร้สายทั้งในสตูดิโอ
และภาคสนาม
7. คุณสมบัติเพิ่มเติม
- จอภาพ LCD 2,100,000 จุดแบบปรับมุมได้พร้อมมุมมองการมองเห็นที่กว้างขนาด 3.2 นิ้ว
- ความอเนกประสงค์ในสภาวะแสงที่แตกต่างกัน จับภาพรายละเอียดพร้อมการป้องกันการเปิดรับแสงมาก
กว่าปกติในสภาวะแสงกลางแจ้งที่สว่าง และรักษาคุณภาพของภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย เช่น การถ่ายภาพอีเวนต์ คอนเสิร์ต สัตว์ป่า และกีฬาในร่ม - เพิ่มความแม่นยำด้วยออโตโฟกัสจุดเดียว 273 จุด และการตรวจจับวัตถุที่ได้รับการปรับปรุงด้วย
ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ 299 จุด มอบความยืดหยุ่นในการจัดองค์ประกอบภาพ
ที่มากขึ้น - กล้องรองรับการบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้สูงสุด 125 นาทีต่อคลิป
- ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่สว่างถึง 3,000 cd/m2 ทำให้ Nikon Z5II เป็นหนึ่งในกล้องที่มีช่องมองภาพสว่างที่สุด
ในตลาด มั่นใจได้ในการมองเห็นที่ชัดเจนแม้ในสภาวะแสงแดดจ้า ช่วยลดแสงสะท้อน และทำให้
การใช้งานกลางแจ้งดีขึ้น. - รองรับสาย USB Type-C, HDMI Type-D และสายลั่นชัตเตอร์ MC-DC3
การวางจำหน่าย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง Nikon Z5II ใหม่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดไปที่ https://www.nikon.co.th
1 เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA 2024 ประสิทธิภาพการชดเชย Yaw/Pitch/Roll เมื่อใช้ NIKKOR Z 24-120mm f/4 S (ซูมสุดปลายเทเลโฟโต้ในโหมด NORMAL)
2 ในโหมดภาพถ่ายโดยใช้ออโตโฟกัสทีละภาพ (AF-S), ออโตโฟกัสจุดเดียว (ตรงกลาง) ที่ ISO เทียบเท่า 100 และอุณหภูมิ 20°C/68°F ด้วยเลนส์ f/1.2
3 เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA 2024 ค่าที่วัดได้จะเป็นไปตามสภาวะการทดสอบดังต่อไปนี้: [ความสว่างของวัตถุ: EV 10 โดยใช้ NIKKOR Z 24-70mm f/4 S, ทางยาวโฟกัส: 70 มม., โหมดค่าแสง: ปรับรูรับแสงอัตโนมัติ (A), โหมดภาพถ่าย, ออโตโฟกัสทีละภาพ (AF-S), ออโตโฟกัสจุดเดียว (ตรงกลาง)]