กล้อง DSLR ที่ให้ความคล่องตัวเหมาะสำหรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของออโตโฟกัสอันทรงพลังและช่องมองภาพออพติคอลที่ใช้งานง่าย 

ประเทศไทย – ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ที่กว้างไกลหรือช็อตมุมต่ำของนักสเก็ตบอร์ดที่กำลังโลดแล่น ทุกคนก็จะหลงใหลในความน่าอัศจรรย์และเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจของธรรมชาติและช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้น ทั้งช่างถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอต่างก็จะได้เก็บบันทึกแอ็คชั่นที่ดีที่สุดในความเคลื่อนไหวที่ฉับไวโดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดช็อตเด็ดๆ ด้วย D780 ใหม่ ซึ่งได้รับการเปิดตัวโดย บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้ววันนี้ กล้องรุ่นล่าสุดที่สืบทอดความสำเร็จจากนิคอน D750 รุ่นนี้มอบการปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างน่าทึ่งในด้านคุณภาพของภาพ สมรรถนะ และความอเนกประสงค์ในการใช้งาน

D780 ใหม่สร้างมาตรฐานสำหรับกล้องแห่งอนาคต ด้วยระบบออโตโฟกัส (AF) ที่พัฒนายิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่องมองภาพแบบออฟติคัลที่ดูสบายตา และความแม่นยำระดับสูงของออโตโฟกัสในสภาวะแสงน้อย ผลที่ได้รับคือการถ่ายภาพที่ให้ความแม่นยำสูงยิ่งขึ้นโดยไม่มีการหน่วงเวลาและให้ความกระจ่างชัดขึ้นด้วย เสริมศักยภาพของ D780 ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยกลุ่มเลนส์ F เมาท์ที่ให้สมรรถนะสูงจาก NIKKOR ซึ่งมีรุ่นต่างๆให้เลือกมากมาย ครอบคลุมทุการใช้งาน พร้อมด้วยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ในตัวกล้องขนาดกะทัดรัดและให้การทำงานระดับสูง

“D780 คือกล้อง DSLR ที่มอบความอเนกประสงค์และคล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมที่เด่นชัดจากกล้องอันเป็นที่ชื่นชอบทั่วโลกอย่าง D750 เราได้ปรับปรุงฟังก์ชั่นออโตโฟกัสของ D780 เพื่อให้ช่างภาพเก็บความแม่นยำของโฟกัสได้ในระดับสูงยิ่งขึ้นทั้งในขณะถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ พร้อมทั้งปรับปรุงการจัดวางระบบการทำงานและออกแบบตัวกล้องให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพได้อย่างสะดวกสบายในยามที่ต้องออกนอกสถานที่ ส่วนผสมของเทคโนโลยีล่าสุดจากผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของเราจะทำให้ผู้เป็นเจ้าของ D780 ต้องประทับใจอย่างแนนอน” มร. คันทาโร่ ฟูจิวาระ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการแข่งขันกีฬาแข่งรถที่น่าตื่นเต้นเร้าใจหรือช่วงเวลาสำคัญที่สุดของพิธีแต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิต กล้องนี้ก็พร้อมเก็บทุกความทรงจำด้วยออโตโฟกัสที่ทรงพลังถึงสองระบบที่เหมาะกับสถานการณ์แบบต่างๆ

พบกับความแม่นยำของออโตโฟกัสที่ราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยระบบออโตโฟกัสแบบไฮบริดระดับสูง 273 จุด[1] ซึ่งจะสลับการทำงานโดยอัตโนมัติระหว่าง focal-plane phase detection AF or contrast-detection AF  ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาพประมาณ 90% อีกทั้งยังมอบความแม่นยำที่เพิ่มมากขึ้นด้วย Eye-detection AF ตรวจจับดวงตา[2]

ในการถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพ กล้อง D780 ใช้ออโตโฟกัส 51-point AF พร้อม 15 cross-points ด้วยอัลกอริธึมที่ทัดเทียมกับกล้องรูปแบบ FX รุ่นเรือธงที่ชนะรางวัลของนิคอนอย่าง D5 ซึ่งมอบสมรรถนะอันทรงพลังในการโฟกัส

ด้วย180K-pixel RGB sensor ทำให้ความสามารถด้านการคำนวณอันทรงพลังของ EXPEED 6 และการปรับออโตโฟกัสอย่างละเอียดที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นยิ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำและถูกต้องของฟังก์ชั่นที่ควบคุมโดยระบบอัตโนมัติให้เพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงออโตโฟกัส (AF) ค่าแสงอัตโนมัติ (AE) และไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ (AWB) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการโฟกัสระหว่างช็อตกลางคืนและคอนเสิร์ต กล้อง D780 ให้การทำงานที่ดีเยี่ยมในการตรวจหาออโตโฟกัสในสภาพแสงน้อยที่ต่ำถึง -5.0 EV[3] และ -7.0 EV[4] เก็บบันทึกทุกแอ็คชั่นอย่างฉับไวในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ความเร็วสูงสุดประมาณ 7 ภาพต่อวินาที ทั้งในการถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพและการถ่ายภาพผ่านไลฟ์วิว

ในสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบโดยปราศจากเสียงชัตเตอร์ เช่น ในการประชุม การแสดงบัลเลต์ หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวชั่วพริบตาของนักยิมนาสติก โหมด silent photography mode ใช้พิกเซลเต็มจำนวนด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 12 ภาพต่อวินาทีก็จะเป็นประโยชน์และให้ประสิทธิภาพอย่างเต็มรูปแบบ ฟังก์ชั่นเลื่อนโฟกัสของกล้องจะถ่ายภาพพร้อมกับเลื่อนตำแหน่งโฟกัสโดยอัตโนมัติจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงระยะอินฟินิตี้ (สูงสุด 300 ช็อต) เพื่อการทำภาพซ้อนโฟกัส (Focus Stacking) จึงทำให้กล้องนี้เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพเครื่องประดับ ตัวอย่างทดสอบ และทิวทัศน์

โดดเด่นด้วยจำนวนพิกเซลใช้งานจริง 24.5 ล้านพิกเซลและความไวแสงสูงที่ ISO 51200 (ขยายได้ถึง ISO 204800) กล้อง D780 ยังรองรับการบันทึกขนาด 4K UHD พร้อมการอ่านค่าเต็มพิกเซล โดยที่การบันทึกขนาด Full HD/120p[5] จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพยนตร์ซึ่งใช้ประโยชน์ได้เต็มที่จากเลนส์มุมกว้างและมุมมองภาพขนาดกว้างซึ่งให้ความคมชัดจากขอบจรดขอบ นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดความเร็วของออโตโฟกัส[6] และความไวในการติดตามออโตโฟกัสได้ในระหว่างการบันทึกภาพยนตร์ จึงเท่ากับว่าจะได้การโฟกัสที่นุ่มนวลตามจุดประสงค์ของการสร้างสรรค์ เนื่องจากใช้ประโยชน์ของออโตโฟกัสแบบตรวจวัดระยะห่างของระนาบการโฟกัส

ในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์อย่างจริงจังสำหรับช่างภาพวิดีโอและนักสร้างสรรค์วิดีโอ คุณจะได้เพลิดเพลินกับลักษณะเฉพาะของ N-Log[7] 10 บิท หรือลักษณะเฉพาะของ HDR (HLG[8]) แบบใหม่ เพื่อให้ได้เอาท์พุทภาพยนตร์ที่ดูสมจริงพร้อมกับเอาท์พุท HDMI 10 บิท ลักษณะเฉพาะของภาพ HDR (HLG) ดังกล่าวนี้รองรับเวิร์กโฟลว์ HDR ในทันที ซึ่งจะมอบภาพยนตร์ที่มีการไล่ระดับโทนสีที่สมบูรณ์โดยไม่ต้องทำการปรับระดับสี

เพิ่มพูนประสิทธิภาพของกระบวนงานด้วยเอาท์พุทรหัสเวลาของกล้อง ช่วยให้ง่ายต่อการซิงค์ฟุตเทจเข้ากับส่วนประกอบภาพยนตร์อื่นๆ โดยการบันทึกข้อมูลเวลา นอกจากนี้ยังสามารถซิงค์กับอุปกรณ์ที่สนับสนุน ATOMOS Open Protocol ในขนาด 4K UHD อีกด้วย

กล้องมีฟังก์ชั่นการผลิตภาพยนตร์เหลื่อมเวลาอัตโนมัติภายในกล้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถยืนยันภาพยนตร์ที่ถ่ายทำได้ในทันทีหลังจากการถ่ายแบบเว้นช่วงเวลา คุณสมบัติด้านการผลิตภาพยนตร์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ยังมีทั้งระบบลดภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์และ Focus Peaking ซึ่งทำให้ D780 เป็นอุปกรณ์ที่พร้อมสรรพสำหรับนักผลิตภาพยนตร์ตั้งแต่ระดับมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ

สำหรับผู้ที่สนุกกับการถ่ายภาพแบบ Long Exposure หรือภาพถ่ายดวงดาว ในตอนนี้ D780 สามารถขยายความไวชัตเตอร์ได้สูงสุดถึง 900 วินาที จึงเปิดโอกาสสำหรับรูปแบบการสร้างสรรค์เพิ่มเติมได้ การบันทึกภาพจากเฟรมความเร็วสูง[9] โดยให้ภาพขนาด 2 ล้านพิกเซลที่ความเร็วสูงสุด 120 ภาพต่อวินาทีในการบันทึกภาพยนตร์ขนาด Full HD หรือ 8 ล้านพิกเซลที่ความเร็วสูงสุด 30 ภาพต่อวินาทีในการบันทึกภาพยนตร์ขนาด 4K UHD โดยทั้งสองแบบใช้การติดตาม AF/AE ก็ทำได้ด้วยกล้องนี้ในเมนูรีทัชของ D780 ผู้ใช้สามารถปรับการซ้อนภาพภายในกล้องเพื่อเพิ่มหรือลดความสว่างได้แม้แต่หลังจากถ่ายภาพแล้ว ภาพที่ปรับโดยใช้โหมดเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษยังสามารถบันทึกเป็นภาพ RAW ได้อีกด้วย

ในเมนูรีทัชของ D780 ผู้ใช้สามารถปรับการซ้อนภาพภายในกล้องเพื่อเพิ่มหรือลดความสว่างได้แม้แต่หลังจากถ่ายภาพแล้ว ภาพที่ปรับโดยใช้โหมดเอฟเฟกต์พิเศษยังสามารถบันทึกเป็นภาพ RAW ได้อีกด้วย

จอภาพของ D780 มีขนาด 3.2 นิ้ว สั่งการผ่านระบบสัมผัส ปรับเอียงได้ ความละเอียดสูง ประมาณ 2,359,000 จุด ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบภาพได้อย่างละเอียดในระหว่างการซูมแสดงภาพ กล้องมาพร้อมคุณสมบัติการแปลงเนกาทีฟเป็นดิจิตอลโดยใช้อะแดปเตอร์แปลงฟิล์มเป็นดิจิตอล ES-2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม สามารถแปลงฟิล์มให้เป็นข้อมูลดิจิตอลได้อย่างง่ายดาย เพื่อความเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ ของ D780 ยังประกอบด้วยการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน รองรับเวลาในการถ่ายภาพยาวนานขึ้น และช่องบรรจุแผ่นการ์ดหน่วยความจำสองช่องซึ่งเข้ากันได้กับการ์ด SD UHS II เมนูรีทัชมีการเปลี่ยนแปลงเพื่ออำนวยความสะดวกและง่ายดายสำหรับผู้ใช้ โดยให้ตัวเลือกการตัดส่วนและการปรับขนาดที่ปรับปรุงใหม่ และยังมีอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบใหม่ซึ่งมีเมนู i ที่ยืดหยุ่นและมองเห็นได้ชัด คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บบันทึกผลงานสร้างสรรค์ได้อย่างง่ายดายและสะดวกอย่างยิ่ง

เพื่อตอบสนองตามความต้องการด้านการสื่อสารหลากหลายแบบ D780 จึงมีทั้ง SnapBridge พร้อมการถ่ายโอน RAW และการตั้งค่าการกรอง ระบบสั่งการผ่านรีโมตคอนโทรล Bluetooth® ร่วมกับฟังก์ชั่น Wi-Fi เสริมประสิทธิภาพในตัว และความเข้ากันได้กับ WT-7/A/B/C

NIKON D780 คือกล้องที่เปี่ยมพลัง และเป็นกล้องที่เหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์

[1] ในการบันทึกภาพนิ่งโดยใช้พื้นที่ภาพ FX (36×24) และออโตโฟกัสจุดเดียว 231 จุดโฟกัสเมื่อใช้การบันทึกภาพยนตร์
[2] เมื่อใช้การถ่ายภาพผ่านไลฟ์วิวในโหมดออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ
[3] 231 จุดระหว่างการบันทึกภาพยนตร์
[4] ในการถ่ายภาพนิ่งโดยใช้การตั้งค่า f/1.4, ISO 100, 20 °C/68 °F, ออโตโฟกัสทีละภาพ (AF-S)
[5] พื้นที่ภาพคงที่ที่รูปแบบภาพยนตร์ FX
[6] การตั้งค่าความเร็วของออโตโฟกัสไม่รองรับในเลนส์บางรุ่น
[7] ฟุตเทจบันทึกไปยังอุปกรณ์ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถบันทึกไปยังการ์ดหน่วยความจำที่ใส่อยู่ในกล้อง
[8] HLG (Hybrid Log Gamma) คือมาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลวิดีโอ HDR ไปยังจอแสดงผล ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องบันทึกภาพยนตร์ภายนอก
[9] เมื่อเปิดใช้งานโหมดลั่นชัตเตอร์ CH, CL หรือ QC พร้อมไลฟ์วิวภาพยนตร์ ภาพถ่ายจะถูกบันทึกที่ขนาดภาพและความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องเดียวกันกับที่ระบุไว้สำหรับขนาดเฟรม/อัตราการบันทึกภาพของภาพยนตร์ การเก็บบันทึกภาพนิ่งไม่สามารถทำได้ที่เอาท์พุท HDMI 10 บิท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ D780 ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดเยี่ยมชมได้ www.nikon.co.th