เพิ่มศักยภาพในการถ่ายภาพของคุณด้วย Z TELECONVERTER TC-1.4X และ Z TELECONVERTER TC-2.0X

เทเลคอนเวอร์เตอร์สำหรับ Z เมาท์ รุ่นล่าสุดจากนิคอน ที่จะเป็นอุปกรณ์โปรดชิ้นใหม่สำหรับมือสมัครเล่นและมืออาชีพที่จะได้ถ่ายภาพช่วงซูเปอร์เทเลโฟโต้ด้วยระบบออพติคสมรรถนะสูงของเลนส์ NIKKOR Z

ประเทศไทย  – บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเทเลคอนเวอร์เตอร์ใหม่ 2 รุ่น สำหรับเลนส์ NIKKOR Z ได้แก่ Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x เทเลคอนเวอร์เตอร์เมาท์ Z ทั้ง 2 รุ่นนี้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ให้คุณเพลิดเพลินกับความคล่องตัวขั้นสุดและเปิดกว้างสู่การถ่ายภาพเทเลโฟโต้อีกมากมายหลายแนวด้วยเลนส์ NIKKOR Z  Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x พร้อมมอบการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้อย่างง่ายดายด้วยทางยาวโฟกัสที่ x1.4 และ x2 ตามลำดับ พร้อมกับเพิ่มศักยภาพของเลนส์ที่คุณมีอยู่ให้ถึงที่สุด สร้างความมั่นใจได้ว่าการจับคู่เข้ากับเทเลคอนเวอร์เตอร์สองรุ่นนี้จะยังคงสมรรถนะการถ่ายทอดภาพที่เหนือชั้น เช่นเดียวกับสมรรถนะของระบบออโตโฟกัส (AF) และระบบลดภาพสั่นไหว (VR) เมื่อต่อเข้ากับเลนส์หลัก1

“ด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน และให้ฟังก์ชันอันชาญฉลาด ทำให้ Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่างภาพที่ต้องการเพิ่มช่วงการถ่ายทอดผลงานในการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้โดยใช้เลนส์ NIKKOR Z ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์ป่า ส่องนก ธรรมชาติ และกีฬา เทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้ เป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอุปกรณ์ของช่างภาพ เพื่อขยายช่วงโฟกัสของคุณโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักในกระเป๋ามากนัก” กล่าวโดย มร. คันทาโร ฟูจิวาระ ประธานและกรรมการผู้จัดการ

คุณสมบัติหลักของ Z TELECONVERTER TC-1.4X และ Z TELECONVERTER TC-2.0X

ยกระดับศักยภาพ NIKKOR Z ด้วยความสามารถในการถ่ายเทเลโฟโต้

น้ำหนักที่มากของอุปกรณ์เป็นปัญหาที่พบบ่อยของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x พร้อมจะขยายช่วงซูเปอร์เทเลโฟโต้ให้กว้างยิ่งขึ้นและให้ทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น2 โดยที่ใช้เลนส์ NIKKOR Z และเมาท์ Z ซึ่งจะมอบคุณภาพของภาพและสมรรถนะระบบออพติคระดับสูงให้อย่างเหนือชั้น โดยไม่เพิ่มน้ำหนักชุดอุปกรณ์ในกระเป๋าของคุณ

การถ่ายภาพเทเลโฟโต้จะยุ่งยากน้อยลงด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้ อีกทั้งยังสามารถเก็บภาพถ่ายของวัตถุขนาดใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยที่ยังคงรักษาจำนวนพิกเซลตามเดิมของเลนส์หลักไว้ได้อีกด้วย[1]

Z TELECONVERTER TC-1.4x มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพียง 220 กรัม พร้อมคุณสมบัติ:

  • ช่วงเทเลโฟโต้ระยะกลางถึงระยะยาว โดยเพิ่มทางยาวโฟกัส 1.4x (เทียบเท่า 280 มม. ที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด) พร้อมอัตราการขยายสูงสุด 0.28x
  • ความอเนกประสงค์ในการถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กในระยะไกล เช่น สัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาติ โดยอาจเป็นนกบนต้นไม้ หรือในการเก็บภาพช่วงเวลาน่าระทึกใจของนักวิ่งที่กำลังเข้าสู่เส้นชัย

เมื่อใช้ NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S

เมื่อใช้ NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S กับ Z TELECONVERTER TC-1.4x

Z TELECONVERTER TC-2.0x ที่วางใจได้และมีน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม พร้อมคุณสมบัติ:

  • ช่วงซูเปอร์เทเลโฟโต้ระยะยาว โดยเพิ่มทางยาวโฟกัส 2x (เทียบเท่า 400 มม. ที่ตำแหน่งเทเลโฟโต้สูงสุด) พร้อมอัตราการขยายสูงสุด 0.4x
  • ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพสัตว์ป่าและนกด้วยช่วงซูเปอร์เทเลโฟโต้ เป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีเยี่ยมสำหรับออกทริปลุยซาฟารีโดยใช้เลนส์ NIKKOR Z ที่คุณมีอยู่

เมื่อใช้ NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S

เมื่อใช้ NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S กับ Z TELECONVERTER TC-2.0x

ใช้งานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อต่อ Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x เข้ากับอุปกรณ์ของคุณ จะไม่มีการลดทอนคุณภาพของภาพหรือสมรรถนะด้านออพติคของเลนส์ โดยที่ได้ศักยภาพเต็มๆ ของเลนส์ที่คุณมีอยู่ เทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลาย และเมื่อคุณต่อเข้ากับเลนส์ NIKKOR Z ที่ใช้งานร่วมกันได้ เช่น NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S ก็มั่นใจได้ว่าสมรรถนะระบบออโตโฟกัสระดับสูงจะยังคงสมบูรณ์ เน้นการถ่ายภาพที่สะดวกสบาย โดยศักยภาพความแม่นยำของ AF หรือความเร็ว AF ยังคงอยู่อย่างเต็มที่

เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์รอบตัว แสงธรรมชาติและบรรยากาศที่เอื้อให้ช่างภาพเฝ้าสังเกตและใช้แสงธรรมชาติในสภาพแวดล้อมเพื่อถ่ายภาพต่างๆ เมื่อใช้เทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้ก็ไม่ลดทอนคุณภาพของภาพ เนื่องจากมีการออกแบบที่คิดคำนึงมาเป็นอย่างดี ถึงความคลาดเคลื่อนสี การรับมือกับสภาวะย้อนแสง ความผิดเพี้ยน และความสว่างในพื้นที่รอบข้างของภาพ

ความเชื่อมั่น ความพิถีพิถัน และการใช้งานที่สะดวก

ในการจัดทำเทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้ มีการออกแบบที่พิถีพิถันเพื่อให้เป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมลงตัวสำหรับช่างภาพนอกสถานที่ โดยคำนึงถึงช่างภาพและสภาพแวดล้อมที่พวกเขาทำงาน เทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งในทุกสถานการณ์ ให้คุณเช็ดหยดน้ำหรือโคลนที่อาจกระเด็นใส่ผิวหน้าเลนส์ออกไปได้ง่ายๆ เนื่องจากเทเลคอนเวอร์เตอร์มีการเคลือบโค้ทผิวฟลูออรีนที่มอบประสิทธิภาพป้องกันการเปรอะเปื้อนอย่างเหนือชั้น ทั้ง Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x ผ่านการซีลผนึกป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ ด้วยคุณสมบัติป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ[3] แบบเดียวกับเลนส์ NIKKOR Z ในกลุ่ม S-Line[4] และแหวนยางที่ประกอบเข้ากับทั้งปลายด้านเลนส์และกล้องเพื่อเพิ่มการปกป้องให้อีกชั้น นอกจากนี้ การเคลือบโค้ทผิวฟลูออรีนที่ชิ้นเลนส์หน้าสุดและหลังสุดก็ช่วยให้ได้สมรรถนะป้องกันการเปรอะเปื้อนที่ดีเยี่ยม

สบายใจได้เมื่ออยู่นอกสถานที่ เพราะคุณจะไม่ทำอุปกรณ์หลุดมือด้วยที่กันลื่นซึ่งทำให้การใส่และถอดอุปกรณ์เป็นไปอย่างง่ายดาย

ความไว้วางใจและประโยชน์ใช้สอยขั้นสูงสุด เทเลคอนเวอร์เตอร์ 2 รุ่นนี้มีการออกแบบที่พร้อมด้วยคุณสมบัติหลากหลาย เพื่อป้องกันการต่อกลับข้างระหว่างเทเลคอนเวอร์เตอร์กับเลนส์และ/หรือตัวกล้อง โดยมีภาพประกอบให้ใช้ความระมัดระวังพิมพ์อยู่บนฝาปิดด้านหน้าเพื่อเป็นตัวช่วย อีกทั้งยังมีตัวป้องกันที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันเซ็นเซอร์ภาพหรือพื้นผิวเลนส์ไม่ให้เกิดความเสียหายจากการประกอบผิดข้าง

การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เลนส์ NIKKOR Z

นิคอนมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์จากระบบเมาท์ Z โดยทุ่มเทเต็มที่เพื่อต่อเติมกลุ่มผลิตภัณฑ์เลนส์ NIKKOR Z ด้วยเลนส์สมรรถนะสูงมากมาย ซึ่งจะผลักดันความทะเยอทะยานในการสร้างสรรค์ของเหล่าครีเอเตอร์ โดยจะแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กลุ่ม NIKKOR Z ในช่วงปี 2021[5] โดยเริ่มจาก NIKKOR Z 14-24mm f/2.8 S ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวภายในปีนี้

[1] ในวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ “เลนส์หลัก” หมายถึง NIKKOR Z 70-200mm f/2.8 VR S เท่านั้น

เมื่อใช้ TC-1.4× ค่ารูรับแสงใช้งานจริงจะลดลงไปหนึ่งสต็อป เมื่อใช้ TC-2.0× ค่ารูรับแสงใช้งานจริงจะลดลงไปสองสต็อป

[2] การต่อเลนส์เข้ากับเทเลคอนเวอร์เตอร์จะลดความเร็วลงไป (ค่ารูรับแสงใช้งานจริง หรือ “ความสว่าง”): 1 สต็อปในกรณีที่ใช้ TC-1.4× และ 2 สต็อปในกรณีที่ใช้ TC-2.0×

[3] ไม่รับประกันการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำอย่างรอบด้านในทุกสถานการณ์หรือภายใต้ทุกสภาพเงื่อนไข

[4] S-Line คือเกรดที่กำหนดขึ้นมาใหม่สำหรับกลุ่มเลนส์ NIKKOR Z โดยยึดถือเกณฑ์มาตรฐานระดับใหม่ในด้านสมรรถนะของระบบออพติค เพื่อสร้างนิยามใหม่ของหลักการออกแบบและการควบคุมคุณภาพ

[5] อัพเดท: วันที่ 21 กรกฎาคม 2020 กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

การวางจำหน่าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Z TELECONVERTER TC-1.4x และ Z TELECONVERTER TC-2.0x ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน โปรดเยี่ยมชม www.nikon.co.th

เกี่ยวกับแบรนด์ NIKKOR

NIKKOR เป็นชื่อแบรนด์สำหรับเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพของนิคอน ชื่อ NIKKOR มาจากการเพิ่มตัวอักษร "r" ที่ถือเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในการตั้งชื่อเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพ มาประกอบกับคำว่า "Nikko" ซึ่งเป็นคำย่อแบบโรมันของ Nippon Kogaku K.K. อันเป็นชื่อเดิมที่ใช้เมื่อครั้งก่อตั้งบริษัท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา นิคอนได้ประกาศถึงความสำเร็จอีกขั้นด้วยยอดการผลิตเลนส์ NIKKOR จำนวน 110 ล้านชิ้นสำหรับกล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ของนิคอน

ในเดือนพฤศจิกายน 2023 นิคอนได้ฉลองครบรอบ 90 ปีของ NIKKOR ซึ่งได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับ MY NIKKOR

ช่างภาพทุกคนมีเรื่องราวที่อยากเล่า ก้าวเข้าสู่โลกที่ประกอบขึ้นจากมุมมองและการแสดงออกที่สร้างสรรค์ของช่างภาพนิคอน ไปที่ MY NIKKOR (mynikkor.com) เพื่อรับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณและการผจญภัยของพวกเขา แล้วให้ NIKKOR เป็นตัวกลางเชื่อมโยงคุณสู่วัฒนธรรมแห่งการถ่ายภาพ

เกี่ยวกับนิคอน

นิคอนเป็นผู้นำระดับโลกด้านการสร้างภาพดิจิตอล เลนส์ที่มีความเที่ยงตรง และเทคโนโลยีการภาพถ่าย
อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานการออกแบบและเพิ่มความสามารถใหม่ๆ
ให้กับอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ได้รับรางวัลสำหรับผู้บริโภคและช่างภาพมืออาชีพ บริษัท นิคอน เซลล์
ประเทศไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล SLR ทั้งระดับผู้บริโภคทั่วไปและระดับมืออาชีพ,
อุปกรณ์และเลนส์จาก NIKKOR, อุปกรณ์แฟลชเสริมภายนอกและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ,
กล้องดิจิตอลคอมแพคตระกูลนิคอน COOLPIX,
อุปกรณ์เลนส์และกล้องส่องทางไกลทางการกีฬาของนิคอน และรวมถึงกล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ล่าสุด
โดยดำเนินการในประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

พูดคุยกับนิคอนและช่างภาพคนอื่นๆ บน Facebook NikonThailand  หรือบน Instagram Nikon Thailand