ข้ามเส้นขอบสนาม: การถ่ายภาพกีฬาที่เต็มไปแอ็คชั่นต่าง ๆ ด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z

ในศิลปะแห่งการถ่ายภาพกีฬา ทุกเสี้ยววินาทีมีความหมายเสมอ ความสามารถในการเก็บภาพนิ่งของเหตุการณ์ในจังหวะสำคัญ ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ช่างภาพกีฬาชั้นยอดแตกต่าง แสดงถึงความสมดุลที่ดีระหว่างทักษะด้านเทคนิค การจัดองค์ประกอบภาพ และจังหวะเวลา ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพการแข่งขันรักบี้อยู่ข้างสนาม เก็บภาพไฮไลต์อยู่ริมสนามบาสเก็ตบอลรอบเพลย์ออฟ หรือบันทึกภาพความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตในทัวร์นาเมนท์กีฬาระดับโลก เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z ได้รับการออกแบบมาเพื่อจับภาพแอ็คชั่นต่าง ๆ ของเกมในแบบของคุณ

และด้วยสุดยอดเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัสและความสามารถให้เลือกหลากหลายให้เหมาะกับทุกโอกาสกีฬา จึงทำให้ช่างภาพมีตัวเลือกมากมายสำหรับบันทึกภาพช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นด้วยความคมชัดและรายละเอียดที่เหนือชั้นกว่า่ใคร เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพอากาศเพื่อตอบสนองความต้องการที่พิถีพิถันของการถ่ายภาพกีฬาและวิดีโอ เลนส์นี้มาพร้อมคุณสมบัติการทนต่อฝุ่นและหยดน้ำ1 นอกเหนือไปจากข้อมูลจำเพาะขั้นสูงอื่น ๆ ฟีเจอร์การโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว การช่วยลดภาพสั่นไหวอันยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่เหนือชั้น เป็นเพียงแค่บางส่วนจากฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้ช่างภาพสามารถบันทึกความตื่นเต้นเร้าใจและอารมณ์อันแท้จริงของกีฬาเอาไว้ได้

Female athlete swimming breaststroke at competition photographed by Quinn Rooney with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & AccessoriesFemale athlete swimming breaststroke at competition photographed by Quinn Rooney with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & Accessories

© Quinn Rooney

จับจังหวะของนักกีฬาให้ทัน

เมื่อคุณกำลังตามติดนักกีฬาในสนาม ทุกรายละเอียดมีความสำคัญ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาโดยคำนึงถึงทั้งประสิทธิภาพและความสะดวกในการพกพา ดีไซน์ที่คล่องตัวนี้มาพร้อมกับทุกฟีเจอร์ซึ่งคุณจะคาดหวังได้จากเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้แบบฟูลเฟรม และอื่น ๆ มากไปกว่านั้น โดยคำนึงถึงความสะดวกในการพกพาด้วย ตัวอย่างเช่น เลนส์ NIKKOR Z 600 มม. f/4 TC VR S ที่มีน้ำหนักประมาณ 3,260 กรัม แต่ยังคงมีช่วงซูมที่กว้างและให้สมดุลในการถ่ายภาพแบบถือด้วยมือเมื่อมีการเอียงได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง ถูกออกแบบมาด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์ 1.4x ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนทางยาวโฟกัส 600 มม.จนถึง 840 มม.ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ยังคงรู้สึกได้ถึงความเสถียรขณะแพนกล้องบนขาตั้งเดี่ยวหรือเมื่อถือด้วยมือ

Motocross rider at competition photographed by Julie Cogis with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & AccessoriesMotocross rider at competition photographed by Julie Cogis with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & Accessories

© Julie Cogis

นอกจากนี้ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้นี้ยังช่วยให้ความเหนื่อยล้าในการถ่ายภาพลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับความเข้าใจที่ว่าเลนส์พวกนี้มีขนาดใหญ่และหนัก เลนส์ NIKKOR Z 600 มม. f/6.3 VR S น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ มีน้ำหนักประมาณ 1,390 กรัม และความยาวกะทัดรัด 278 มม. ได้รับการออกแบบให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ใกล้กับตัวกล้องมากขึ้นจึงทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและรักษาสมดุลได้ดีขึ้น  โหมด SPORT จากเทคโนโลยีระบบลดภาพสั่นไหว (VR) ในตัว ช่วยเสริมการควบคุมและลดการสั่นของกล้องเมื่อถ่ายภาพนักกีฬาที่เคลื่อนไหวรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ แม้ในขณะที่กำลังถ่ายภาพต่อเนื่อง

Photographer carrying Nikon mirrorless camera fitted with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & AccessoriesPhotographer carrying Nikon mirrorless camera fitted with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & Accessories

นอกจากนี้ ในการจับภาพรายละเอียดที่ซับซ้อนของการเคลื่อนไหวอันว่องไวของนักกีฬา ความไวชัตเตอร์สูง ๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งต้องใช้เลนส์ที่สามารถรับแสงได้มากและมีค่ารูรับแสงสูงสุดเพื่อจะได้ภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดไว้ได้ แม้ในสถานการณ์ที่มีแสงยากต่อการถ่ายภาพและมีนักกีฬาหลายคนอยู่ในภาพ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z 600 มม. f/4 TC VR S ตอบสนองต่อความท้าทายนี้ด้วยดีไซน์ของระบบออปติกขั้นสูงที่มีอยู่ในเลนส์หลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถรับมือกับสภาพแสงที่คาดเดาไม่ได้ และการเคลื่อนที่ไปมาของนักกีฬาตลอดเวลาในกีฬาหลายประเภทได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่โมโตครอสไปจนถึงฟุตบอล

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z คือการใช้กระจกเลนส์ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันหลายชนิดในเพื่อสร้างภาพที่ชัดเจนอย่างสมจริง โดยช่วยลดความคลาดเคลื่อนสี การเกิดแสงแฟลร์ และการแพร่กระจายของสีได้อย่างมาก องค์ประกอบเหล่านี้ได้แก่ กระจกที่มีการกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ (ED), เลนส์แอสเฟอริคัล เลนส์ฟลูโอไรท์ และกระจกเลนส์ที่มีการหักเหแสงที่ช่วงความยาวคลื่นสั้น (SR) ใหม่ล่าสุด จากนั้นองค์ประกอบด้านหน้าของเลนส์นี้จะถูกเคลือบด้วย Meso Amorphous Coat และ/หรือ Nano Crystal Coat2 เพื่อประสิทธิภาพที่ชัดเจนในการป้องกันแสงสะท้อนเมื่อมีการเลี้ยวเบนแสงในแนวทแยงและแนวตั้ง สารเคลือบป้องกันแสงสะท้อนเหล่านี้จะโดดเด่นเป็นพิเศษในสถานการณ์ย้อนแสง สามารถช่วยลดความคลาดเคลื่อนของเลนส์ลงได้ แม้จะใช้รูรับแสงกว้างที่สุด การเกิดภาพซ้อน ความคลาดเคลื่อนแบบคอมา ความคลาดเคลื่อนแนวแกน และความคลาดเคลื่อนทรงกลม ทั้งหมดที่ขอบภาพจะลดลง แม้ว่าจะถ่ายภาพที่ความเร็วสูงก็ตาม ซึ่งส่งผลให้ได้ภาพที่ปราศจากการเบี่ยงเบนและข้อบกพร่องของการหักเหแสงซึ่งมีคอนทราสต์ของสีและความคมชัดที่ชัดเจน

การรับมือกับอุปสรรคในการถ่ายภาพและวิดีโอเกี่ยวกับกีฬาในร่ม

การถ่ายภาพกีฬาในร่มจะยากเป็นพิเศษด้วยเหตุผลหลากหลายประการ ในหลายสถานการณ์ภายในอาคาร เช่น โรงยิมของโรงเรียน บางครั้งระดับแสงอาจจะลดลงจนต่ำมาก แม้ว่าจะใช้ ISO สูงและรูรับแสงกว้างแล้ว ความไวชัตเตอร์สูงสุดที่มีอยู่ก็อาจยังไม่เร็วพอที่จะจับภาพแอ็คชั่นการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ทางเลือกเดียวที่เหลือก็คือการใช้เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงสูงสุดที่เร็วมาก ๆ เช่น เลนส์ที่เปิดรูรับแสงได้ถึง f/2.8 ปัจจัยเรื่องระยะทางทำให้การถ่ายภาพกีฬาในร่มมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องอยู่ห่างจากเหตุการณ์ที่กำลังแข่งขันอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวเพื่อติดตามเหตุการณ์ที่อยู่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน เลนส์ NIKKOR Z 400 มม. f/2.8 TC VR S มีรูรับแสง f/2.8 ที่รวดเร็วตลอดช่วงการซูมทั้งหมด จึงทำให้เอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้และเป็นเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ในอาคารที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแข่งกีฬา เพียงแค่เปิดปิดสวิตช์ของเลนส์ NIKKOR Z 400 มม. f/2.8 TC VR Sช่วงการโฟกัสก็ยังสามารถขยายได้ถึง 560 มม.อย่างง่ายดาย ด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์ 1.4x ในตัวที่ใช้งานสะดวก

Men's competitive cycling at velodrome photographed by Matthias Hangst with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & AccessoriesMen's competitive cycling at velodrome photographed by Matthias Hangst with Nikon NIKKOR Z Super telephoto Lens | Nikon Cameras, Lenses & Accessories

© Matthias Hangst

สำหรับการใช้งานทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ เลนส์เทเลโฟโต้เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาโดยใช้ Stepping Motor (STM) หรือ Silky Swift Voice Coil Motor (SSVCM) ความเร็วสูง เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจับภาพช่วงเวลาที่มีแอ็คชั่นมากมายได้อย่างไม่สะดุด ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับกีฬาที่นักกีฬาต้องการสมาธิสูง ๆ โดยจะใช้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้เพื่อติดตามและโฟกัสไปยังเหตุการณ์ที่เป็นเป้าหมายจากระยะไกลได้อย่างเงียบเชียบเพื่อหลีกเลี่ยงในการรบกวนผู้เล่น นอกจากนี้ วงแหวนแบบไม่มีเสียงคลิกยังช่วยลดเสียงที่เกิดจากการใช้งานให้เหลือน้อยที่สุด และยังคงรักษามุมมองในการจับภาพกับค่าแสงไว้ให้คงที่เมื่อปรับตำแหน่งโฟกัส

การจับตาดูเหตุการณ์เป็นเรื่องสำคัญในการแข่งขันกีฬา เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญสำหรับประตูชัยที่เกิดขึ้น เข้าใจความต้องการที่สำคัญเพื่อให้มีสมาธิจดจ่อกับแอ็คชั่นในสนาม คอร์ท ลู่วิ่ง หรือสระว่ายน้ำ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้อย่างเลนส์ NIKKOR Z 180-600 มม. f/5.6-6.3 VR นี้ได้รับการออกแบบมาให้มีปุ่ม L-Fn เพื่อการกำหนดค่าฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำงานร่วมกันกับระบบนิเวศมิเรอร์เลสของ Nikon ที่มีอยู่

เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ NIKKOR Z ได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสมที่สุดในการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศมิเรอร์เลสฟูลเฟรมของ Nikon อย่างเต็มที่ สร้างการทำงานร่วมกันและความเข้ากันได้ในระดับที่สูง ซึ่งทำให้ทุกประสบการณ์การถ่ายภาพเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าพอใจ กล้องซีรีส์ Nikon Z อย่าง Z 9 และ Z 8 มาพร้อมกับระบบออโตโฟกัสขั้นสูงและการควบคุมที่ใช้งานง่ายซึ่งทำงานร่วมกับเลนส์ NIKKOR Z ได้อย่างกลมกลืน การทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ช่างภาพสามารถให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพสวย ๆ ได้อย่างเต็มที่

แม้ว่าการถ่ายภาพการแข่งขันกีฬาอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่เลนส์ที่เหมาะสมและระบบนิเวศแบบมิเรอร์เลสก็สามารถช่วยให้ช่างภาพและช่างภาพวิดีโอสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาใดหรือสภาพแวดล้อมแบบใด เลนส์มิเรอร์เลส NIKKOR Z ก็สามารถสร้างภาพนิ่งและวิดีโอที่มีคุณภาพสูงซึ่งช่วยบันทึกช่วงเวลาอันล้ำค่าและน่าจดจำเอาไว้ได้ 

1 ไม่รับประกันการทนต่อฝุ่นละอองและหยดน้ำในทุกสถานการณ์หรือภายใต้ทุกสภาพเงื่อนไข
2 ในแต่ละเลนส์จะใช้ชนิดการเคลือบที่แตกต่างกันไป