เว็บไซต์ของนิคอน เอเชีย และเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงพันธมิตรบุคคลที่สามจากภายนอกใช้งานคุกกี้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของเราและมอบประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น เราใช้งานคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และคุกกี้ทางการตลาดเพื่อเรียนรู้จากข้อมูลผู้ใช้ ปรับแต่งโฆษณา และวัดประสิทธิภาพ คุกกี้เหล่านี้จะติดตามข้อมูลต่างๆ เช่น วิธีที่ผู้ใช้สำรวจและใช้งานเว็บไซต์ของเรา การวิเคราะห์ของผู้ใช้ และข้อมูลการซื้อของผู้ใช้ เมื่อคลิกที่ "ยอมรับคุกกี้" หรือเรียกดูต่อโดยไม่เปลี่ยนการตั้งค่า แสดงว่าคุณยอมรับและยินยอมให้เว็บไซต์นี้ใช้งานคุกกี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู นโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
พลังแห่ง Phase Fresnel ในเลนส์ 300 มม. ที่มาปฏิวัติวงการ
ขอแนะนำเลนส์ไพรม์ 300 มม. f/4 รุ่นใหม่ที่น่าตื่นตา ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการถ่ายภาพของมืออาชีพและผู้ที่ต้องการถ่ายภาพอย่างจริงจังได้ เลนส์ AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR คือเลนส์ออโตโฟกัสฟูลเฟรม 300 มม. ที่เบาที่สุดในโลก โดยมีความยาวเพียง 147.5 มม. และหนัก 755 กรัม ซึ่งสั้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 30% และเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.68 กก. (ณ วันที่ 5 มกราคม 2015 ข้อความจากการวิจัยของ Nikon) ความลับของขนาดที่โดดเด่นคืออะไร ชิ้นเลนส์ Phase Fresnel (ชิ้นเลนส์ PF) ที่ออกแบบโดย Nikon เป็นชิ้นแรกในผลิตภัณฑ์เลนส์ NIKKOR DSLR แต่การจัดการไม่ใช่ข้อได้เปรียบเพียงประการเดียว ส่วนประกอบ PF ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อให้ได้ความคมชัดและความชัดเจนในระดับใหม่โดยไม่มีความคลาดเคลื่อนสีหรือแสงโกสต์ ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพแฟชั่น ภาพบุคคล ธรรมชาติ สัตว์ป่า กีฬา แอ็คชั่น หรือเรื่องราวใหญ่ๆ ในปัจจุบัน AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR จะช่วยให้คุณเก็บภาพทิวทัศน์อันน่าทึ่งของช่วงเวลาสำคัญได้
ขยายเทคโนโลยีเลนส์อย่างไร้ขีดจำกัด
ประสิทธิภาพด้านออปติคัลแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น
AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR เป็นเลนส์ล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากกล้องฟูลเฟรมความละเอียดสูง องค์ประกอบ Phase Fresnel แทบจะจัดการความคลาดเคลื่อนสีได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ร่วมกับชิ้นกระจกที่มีการกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ (ชิ้นกระจก ED) และโค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล (N) จะให้ภาพที่คมชัดและแม่นยำอย่างน่าทึ่ง มอเตอร์ไซเลนท์เวฟ (SWM) ของ Nikon ให้การโฟกัสอัตโนมัติที่เงียบสนิทและรวดเร็วเป็นพิเศษพร้อมฟังก์ชันปรับเองแบบไร้รอยต่อ (เพียงแค่หมุนวงแหวนปรับโฟกัส) และโค้ทผิวฟลูออรีนที่ชิ้นเลนส์ด้านหน้า ช่วยป้องกันฝุ่นละออง น้ำ คราบมัน หรือสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย
ตัวอย่างสำคัญของความเป็นเลิศ
ความเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถรอบด้าน
เลนส์ AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR เป็นเลนส์ไพรม์ที่สำคัญยิ่งในกระเป๋าของช่างภาพตัวจริง ค่ารูรับแสงสูงสุด f/4 ที่รวดเร็วพร้อมไดอะแฟรมแบบกลมเก้ากลีบให้โบเก้ที่สวยงาม กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้มั่นใจได้ถึงค่าแสงที่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพที่อัตราการบันทึกภาพสูง และเพื่อให้เข้าถึงได้มากขึ้น เลนส์ AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR จึงสามารถใช้ได้กับเทเลคอนเวอร์เตอร์ของ Nikon ส่วนใหญ่ ทำงานในเกือบทุกสภาพแสงในทุกระยะ ด้วยความคมชัดและคอนทราสต์ที่โดดเด่น
ความคมชัดและความชัดเจนในระดับใหม่
ระบบลดภาพสั่นไหว 4.5 สต็อป*
ระบบลดภาพสั่นไหว (VR) ของ AF-S NIKKOR 300 มม. f/4E PF ED VR ช่วยลดภาพสั่นไหวเทียบเท่าความไวชัตเตอร์ที่เพิ่มขึ้น 4.5 สต็อป* (ในโหมด NORMAL ตามมาตรฐาน CIPA) ถ่ายภาพโดยถือกล้องแบบแฮนด์เฮลได้คมชัดในที่แสงน้อย แอ็คชั่นอันรวดเร็ว และอื่นๆ อีกมากมาย โหมด VR ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการถ่ายกีฬาและแอ็คชั่น และถ่ายด้วยขาตั้งกล้อง จะช่วยลดภาพสั่นไหวโดยเฉพาะเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ของคุณ
เทคโนโลยี
A/M
A/M ย่อมาจากโหมดแมนวลแบบเน้นออโต้ (Auto-Priority Manual Mode) โหมดนี้ยังช่วยให้เปลี่ยนจากออโตโฟกัสเป็นแมนวลได้อย่างง่ายดายระหว่างการทำงานของออโตโฟกัสอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความไวสวิตช์ของโหมดจะเปลี่ยนไปเพื่อลดโอกาสไม่ให้เกิดการสลับเป็นแมนวลโฟกัสแบบทันทีอย่างไม่ตั้งใจในระหว่างที่ทำการถ่าย
โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล
ซึ่งคือการโค้ทผิวตัดแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon ช่วยลดการสะท้อนแสงของชิ้นเลนส์ภายในได้อย่างชัดเจนในหลากหลายความยาวคลื่นแสง โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลแก้ปัญหาเอ็ฟเฟ็กต์ภาพซ้อนที่เกิดจากแสงสีแดง พร้อมลดภาพซ้อนและแสงจ้าที่เกิดจากแสงที่ส่องเข้ามาในเลนส์ตามแนวทแยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า
กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง ด้วยเลนส์ประเภท D/G ทั่วไป กลีบไดอะแฟรมทำงานโดยคันโยกก้านเชื่อมเชิงกล
Phase Fresnel
ชิ้นเลนส์ Phase Fresnel (ชิ้นเลนส์ PF) ชดเชยความคลาดเคลื่อนสีและแสงโกสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับชิ้นเลนส์กระจกธรรมดา ชิ้นเลนส์ PF นั้นอิงตามเลนส์ Phase Fresnel ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีวงกลมร่วมศูนย์กลางหลายวงสลักอยู่ การใช้ชิ้นเลนส์ Phase Fresnel ช่วยให้วิศวกรของ Nikon ใช้ชิ้นเลนส์น้อยลง ทำให้เลนส์มีความกะทัดรัดและน้ำหนักเบาขึ้น และเนื่องจากคุณลักษณะของเลนส์ PF (Phase Fresnel) คือการใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์การเลี้ยวเบนของแสง ดังนั้นเมื่อมีแหล่งกำเนิดแสงสว่างจ้าอยู่ในเฟรม หรือเมื่อมีแสงจากนอกเฟรมผ่านเข้ามาในเลนส์ จึงอาจทำให้เกิดแสงแฟลร์สีต่างๆ เป็นรูปวงแหวนได้ตามสภาพการถ่ายภาพ อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดปรากฏการณ์นี้ได้ด้วย “PF Flare Control” ซึ่งมีอยู่ใน Capture NX-D (เวอร์ชัน 1.1.0 หรือใหม่กว่า) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ ความช่วยเหลือ/คู่มือซอฟต์แวร์ Capture NX-D สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Nikon อย่าลืมอัปเดตซอฟต์แวร์ของคุณอยู่เสมอ
*เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA ค่านี้จะสำเร็จได้เมื่อ: ติดตั้งเลนส์รูปแบบ FX ที่รองรับเข้ากับกล้องดิจิทัล SLR รูปแบบ FX
ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น