ภาพถ่ายบุคคลที่สมบูรณ์แบบ

พบกับมาตรฐานใหม่ที่ซึ่งเลนส์เทเลโฟโต้ระยะสั้นทุกรุ่นต้องใช้เทียบเป็นมาตรฐาน ซึ่งก็คือเลนส์ฟูลเฟรม 105 มม. ตัวแรกของโลกที่มีค่ารูรับแสง f/1.4 นั่นเอง ที่สุดแห่งความแม่นยำด้านออปติคัล การแก้ไขความผิดเพี้ยน และฝีมือชั้นเลิศ ค่ารูรับแสงสูงสุดที่รวดเร็วทำให้เลนส์นี้กลายเป็นระบบออปติกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานตามสภาพแสง แนะนำสำหรับการถ่ายภาพบุคคลหรือกีฬาในร่ม เลนส์เทเลโฟโต้ระยะสั้นนี้สามารถทำให้พื้นหลังดูหลุดโฟกัสได้ด้วยกลวิธีอันงดงาม พร้อมแยกวัตถุให้ดูโดดเด่นได้ด้วยรายละเอียดแบบสามมิติ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่สุดแห่งคุณภาพของภาพสำหรับการถ่ายภาพหรือการถ่ายวิดีโออยู่แล้วล่ะก็ เลนส์นี้ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน

*ในบรรดาเลนส์ AF สำหรับกล้อง SLR ดิจิทัล ที่รองรับกับเซ็นเซอร์ภาพรูปแบบ FX; ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2016; ข้อความจากการวิจัยของ Nikon

© Drew Gurian

ให้พื้นหลังดูหลุดโฟกัสได้อย่างงดงาม

เลนส์ฟูลเฟรม 105 มม. ที่รวดเร็วและสว่างที่สุดของโลก

AF-S NIKKOR 105mm f/1.4E ED ซึ่งเป็นเลนส์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานตามสภาพแสงยังจะใช้งานได้ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อใช้กับแฟลชเสริมภายนอกของ Nikon ทั้งในอาคารหรือกลางแจ้ง สร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลอันงดงามได้ด้วยระยะชัดลึกที่น้อยที่สุด รวมไปถึงการใช้การควบคุมการทำงานแฟลชแบบไร้สายด้วย Auto FP High Speed Sync ค่ารูรับแสงสูงสุด f/1.4 และแผ่นไดอะแฟรมม่านรูรับแสง 9 กลีบช่วยให้ได้เอ็ฟเฟ็กต์โบเก้ที่เหนือกว่าด้วยวงกลมขนาดใหญ่ที่มีขอบมนต่าง ๆ ซึ่งมีการไล่ระดับ ทางยาวโฟกัส (105 มม. ในกล้อง FX, 158 มม. ในกล้อง DX) สร้างระยะการใช้งานที่สมบูรณ์แบบที่ใกล้พอที่จะให้คุณมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุได้

ที่สุดแห่งคุณภาพของภาพ

ของที่ต้องมีสำหรับนักถ่ายภาพที่จริงจัง

นี่คือจุดสูงสุดแห่งความเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบเลนส์ ความเป็นเลิศด้านระบบออปติก และนวัตกรรมชั้นนำของวงการของ Nikon การออกแบบระบบออปติกใหม่ของเลนส์ก่อให้เกิดความละเอียดสูงเป็นพิเศษได้ทั่วทั้งเฟรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับหนึ่งในกล้อง DSLR ความละเอียดสูงแบบฟูลเฟรม (FX) ของ Nikon นี่คือเลนส์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดความเป็นไปได้ด้านภาพต่าง ๆ ที่จะทำให้การถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอของคุณไปสู่ระดับใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้ คำถามคือ คุณพร้อมที่จะไปถึงจุดนั้นกันหรือยัง

© Vincent Versace

© Vincent Versace, Vincent Versace

ไร้ซึ่งความด่างพร้อย

ภาพถ่ายและวิดีโออันบริสุทธิ์และปราศจากความผิดเพี้ยน

ลดความคลาดเคลื่อนสี แสงโกสต์ และแสงแฟลร์ให้เหลือน้อยสุดได้ด้วยชิ้นเลนส์การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ (ED) ทั้งสามชิ้น โค้ทผิวนาโนคริสตัล (N) นั้นให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าชั้นเคลือบต้านแสงสะท้อนทั่ว ๆ ไปพร้อมครอบคลุมช่วงความยาวคลื่นที่กว้างเพื่อคอนทราสต์สูงสุด เช่นเดียวกับ AF-S NIKKOR 58mm f/1.4G แหล่งจุดแสงต่าง ๆ ล้วนได้รับการถ่ายทอดภาพออกมาใหม่อย่างเป็นธรรมชาติโดยปราศจากซึ่งแสงแฟลร์รุนแรงในแนวระนาบ พร้อมลดความเอียงให้เหลือน้อยสุดได้ แม้จะเป็นตรงขอบของเฟรมก็ตาม ไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า (E) รักษาค่าแสงให้สม่ำเสมอในระหว่างที่ทำการบันทึกด้วยความเร็วสูงได้ ส่วนชั้นเคลือบฟลูออรีนก็ช่วยให้มั่นใจว่าประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมนั้นจะคงอยู่ต่อไปตลอดอายุการใช้งาน

คุณภาพอันไร้เทียมทาน

ภาพที่เหนือชั้น ณ ปลายนิ้วสัมผัสของคุณ

AF-S NIKKOR 105mm f/1.4E ED นั้นคือสมาชิกใหม่ของเลนส์ NIKKOR f/1.4 ในซีรีส์ Gold Ring ซึ่งเป็นซีรีส์เลนส์ไพรม์ระดับพรีเมียมที่มีโค้ทผิวนาโนคริสตัลและคุณภาพการผลิตในระดับมืออาชีพ เลนส์อื่น ๆ ในซีรีส์นี้นั้นได้แก่ AF-S NIKKOR 24mm f/1.4G, AF-S NIKKOR 35mm f/1.4G, AF-S NIKKOR 58mm f/1.4G, AF-S NIKKOR 85mm f/1.4G

เทคโนโลยี

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

กลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้าในกระบอกเลนส์ช่วยให้ไดอะแฟรมอิเล็กทรอนิกส์หรือการควบคุมกลีบรูรับแสงมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้การรับแสงอัตโนมัติระหว่างการถ่ายทำที่ต่อเนื่อง เมื่อใช้กับเลนส์ประเภท D/G ทั่ว ๆ ไป กลีบไดอะแฟรมจะทำงานด้วยก้านเชื่อมโยงแบบกลไก

M/A

เลือกใช้เลนส์ NIKKOR ที่มีโหมดการโฟกัสที่ช่วยให้คุณสลับการโฟกัสจากแบบออโต้เป็นแมนวลได้โดยแทบจะไร้ซึ่งอาการหน่วงแต่อย่างใด เพียงแค่หมุนวงแหวนปรับโฟกัสบนเลนส์เท่านั้นเอง ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถสลับเป็นแมนวลโฟกัสแบบละเอียดได้อย่างไร้สะดุดขณะที่มองผ่านช่องมองภาพ

กระจก ED (การกระจายแสงต่ำเป็นพิเศษ)

กระจกระบบออปติกที่พัฒนาโดย Nikon นั้นถูกใช้ร่วมกับกระจกระบบออปติกปกติในเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดีที่สุด

โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัล

ซึ่งคือการโค้ทผิวตัดแสงสะท้อนที่พัฒนาโดย Nikon ช่วยลดการสะท้อนแสงของชิ้นเลนส์ภายในได้อย่างชัดเจนในหลากหลายความยาวคลื่นแสง โค้ทผิวแบบนาโนคริสตัลแก้ปัญหาเอ็ฟเฟ็กต์ภาพซ้อนที่เกิดจากแสงสีแดง พร้อมลดภาพซ้อนและแสงจ้าที่เกิดจากแสงที่ส่องเข้ามาในเลนส์ตามแนวทแยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โค้ทผิวฟลูออรีน

ช่างภาพต้องการอุปกรณ์ที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ โค้ทผิวฟลูออรีนของ Nikon ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นละออง หยดน้ำ คราบมัน หรือความสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ขจัดคราบออกได้ง่ายเมื่อติดอยู่ที่พื้นผิวของเลนส์ โค้ทผิวฟลูออรีนของ Nikon ทนทานต่อการเช็ดพื้นผิวเลนส์บ่อย ๆ ได้และเอ็ฟเฟ็กต์ป้องกันแสงสะท้อนของเลนส์ยังมีส่วนช่วยในการถ่ายภาพที่ชัดเจนอีกด้วย

มอเตอร์ไซเลนท์เวฟ

เลนส์ AF-S NIKKOR รุ่นต่าง ๆ มาพร้อมกับมอเตอร์ไซเลนท์เวฟ (SWM) ของ Nikon เทคโนโลยีนี้ช่วยแปลง “คลื่นจร (Travelling Wave)” ให้กลายเป็นพลังงานการหมุนเพื่อโฟกัสระบบออปติก สิ่งนี้ช่วยให้ทำการออโต้โฟกัสด้วยความเร็วสูงได้ ซึ่งทั้งแม่นยำสูงและเงียบสุด ๆ

เลนส์ IF

เลนส์ NIKKOR มีแค่กลุ่มเลนส์ภายในที่เลื่อนระหว่างการโฟกัส ทำให้ขนาดของ IF NIKKOR ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดระหว่างการทำงานของออโตโฟกัส ทำให้เลนส์นั้นกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ได้ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิม เลนส์เหล่านี้จะมีอักษรย่อ IF ตรงกระบอกเลนส์

เลนส์มีกลไกไดอะแฟรมระบบแม่เหล็กไฟฟ้า กล้องรุ่นต่อไปนี้สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์นี้ได้: D5, ซีรีส์ D4, ซีรีส์ D3, Df, D850, D810, D810A, ซีรีส์ D800, D750, D700, D610, D600, D500, ซีรีส์ D300, D7500, D7200, D7100, D7000, D5600, D5500, D5300, D5200, D5100, D5000, D3400, D3300, D3200, D3100, Nikon 1 J1, J2, J3, J4, J5 ที่มี FT-1, Nikon 1 V1, V2, V3 ที่มี FT-1, Nikon 1 S1, S2 ที่มี FT-1

ภาพของ LCD วิดีโอ และแกลเลอรีภาพถ่ายมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการนำเสนอเท่านั้น